Fwd: ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณ

3 views
Skip to first unread message

Phra Chittasangwaro

unread,
Oct 30, 2025, 5:35:52 AMOct 30
to wa...@googlegroups.com, สรรพาลังการ Thai -Pali ศัพท์
เครื่องหมาย สำคัญ แห่งกองตราอาลักษณ์ พระอาณาจักร พระจักรพรรดิ์สิทธัตถะ แบบพื้นสีเข้ม.png


พิสูจน์ใจ พิสูจน์ตำรา พิสูจน์อักษร?

“ถ้า กระบวน ศัพท์ แต่จะให้ นักบวช หรือภิกษุสงฆ์อธิบาย แล้ว โดยมาก พระท่านย่อมมุ่งเน้น ไปที่ ความเป็นไวพจน์กัน ของศัพท์ นัยก็เพื่อ ด้วยที่จะ ทำ พลความ ฉะนั้น จรดลง ในบริบทเดิม นั่นแหละ โดยหมายใจว่า จะมิให้คลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลง, และ หลัก ก็พึงย่อมกล่าวว่า ปัญญา ในอริยสัจ ๔ คือ อะไร? นั่นเอง, ด้วยความที่เป็นพลความ แก่บทตั้ง คือบทเดิม ซึ่งให้เกิดปัญญา ญาณ และวิมุตติ, หรือว่า ยังมิได้ธรรมแต่วิมุตติ ก็ตาม, ที่ซึ่ง วิปัสสนา ย่อมจะต้องส่องความให้เห็น

เช่นว่า ธรรม โดยความเป็นรูป ก็ว่า ธรรม, ครั้ง กล่าวแยบคาย หรือกล่าวให้เห็นโดยความมิใช่เป็นรูป ท่าน ย่อมกล่าวว่า อธรรม, จรด เรื่อง แก่ความเป็นชนิด สามัญ ย่อมว่า สามัญ, แลย่อมว่า เมื่อเป็นสิ่งพิเศษ หรือ วิเศษ แลย่อมให้เห็นว่า มิใช่ อย่างสามัญแล้ว ท่านย่อมกล่าวว่า วิสามัญ, แต่โดยกระบวนอย่างนี้ ก็เห็นชัดกันมาอย่างนี้ ซึ่ง เป็นเรื่อง ง่าย ๆ, โดยความยืดยาวไป ก็เป็นความอย่างนั้น หรือโดยย่นย่อลงมา ก็ย่อมเป็นไปตามบริบท ที่ไม่คลาดเคลื่อนจากเดิม, ลงแก่การ ให้ กำหนด หรือทำปัจจัยสำเร็จรูป หรือการสร้างคำ สร้างปัจจัย มาจากหมวดธรรม ฉะนั้น

เช่นว่า ธรรม หมวด ๑, ๒, ๓, ๔ ก็กล่าว ด้วยความสำเร็จรูป ลงแก่หมวดธรรมนั้นเลย ลงแก่ความที่เป็นไวพจน์ หรือที่จริง ก็ได้แก่วิธี นั้น ๆ นั่นเอง, เช่นว่า หลัก หรือแนวคิด ๑ อย่าง ทำด้วยวิธี ๗ อย่าง ทำอย่างนี้, หลัก หรือแนวคิด ๒ อย่าง ทำด้วยวิธี ๗ อย่าง ทำอย่างนี้, หลัก หรือแนวคิด ๓ อย่าง ทำด้วยวิธี ๗ อย่าง ทำอย่างนี้, หลัก หรือแนวคิด ๔ อย่าง ทำด้วยวิธี ๗ อย่าง ทำอย่างนี้, คือ แปรฐาน ยก หรือกระทำตรงจากสมุฏฐาน เช่นนั้นเลยทีเดียว ในการสร้างคำ, ซึ่ง ธรรม อริยะ หรือ อนริยะ ก็เป็นหมวด ธรรมหนึ่งเป็นต้น แลย่อมสถิต กระทำปัจจัย หรือกระทำกำหนด ด้วยวิธี ๓ อย่าง, ศัพท์ พวกนี้เรียกว่า ศัพท์ปัจจัย หรือปัจจัยสำเร็จรูป ซึ่ง ก็คือ จำพวก ศัพท์ ที่บอก หรือแสดงให้เห็นว่า เป็น อิยะ ติยะ หรือสิยะ, ที่มุ่งแด่ความเป็นไวพจน์ หรือเป็นพลความให้ ส่วนนั้น นั่นเอง, และการสร้างคำ ที่เป็นการผูกขาด หรือมิเป็นการผูกขาด ย่อมจะต้องเป็นเรื่องที่พึงศึกษากันต่อไป

ซึ่งคำว่า วิปัสสนา ย่อมไม่พ้น มาจาก หมวดธรรม คือ ธรรมสากัจฉา ฉะนั้นเอง, แล้ว ได้ปุจฉา-วิสัชนา แล้วเมื่อได้ปัญญา ชี้แจง บอกกล่าว หรือให้เกิดปฏิภาณ แล้วย่อมแจ้งชัด ในอุบายเรืองปัญญาเช่นนั้น ด้วยธรรม ที่บัญญัติไม่ได้ หรือไม่มีบัญญัติธรรมเช่นนั้นอยู่ โดย ชื่อ บัญญัติ หรือภาษา, แล้วนั้นเอง วิสัชนา จึง ถูกยกขึ้น ว่า เป็นบทส่องความ หรือเครื่องส่องความ จึงให้นิรุตติภาวะ แล้วแต่งต่อตามความที่ส่องเห็นได้นั้น ซึ่งภาวะ, จึง ให้ สภาพ หรือ สภาวะ นิรุตติ เกิดขึ้น

ซึ่ง มิได้ กำหนด ให้ทำความแปลกกันโดยความวิตถาร หรือพิสดาร โดยอย่างไร?, เพราะ ท่าน ก็แค่ ลบ ช อักษร แปลง ช อักษร เป็น ป แล้วกระทำความสมบูรณ์ของธาตุ คือศัพท์ ว่า วิปัสสะ แล้วก็ว่า วิปัสสนา ตามความ แห่งธรรมสากัจฉา ที่ได้สืบสนธิ อยู่ ตามบทตั้ง ที่ได้แล้วนั่นเอง, แต่ย่อม มิใช่ จะให้แสดง หรือแถลงสารูป ว่า วิปัสสนา คือ ไวพจน์ กัน กะศัพท์ คือ วิสัชนา, เพราะ เป็นชื่อ เป็นบัญญัติ เป็นภาษา เป็น นิรุตติภาวะ ที่เป็นอย่างอื่นกว่ากัน, จากที่ว่า ติยะ คือสัจ คือศัพท์ จึงต้องว่า จตุ หรือ จัตุ คือสัจ”

Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages