|
Vijja Bhagi
Sarata Ngan Roi Kaeo Ubai
“ในเรื่องของการ ที่เพ่ง หรือมุ่งที่จะสร้าง แต่คำ ที่มีความหมายเท่าเดิม, ยกมาคิด พิจารณาเรื่อง ศีล, พิจารณาว่า พุทธจักรสายอื่น ท่านคงจะว่า สีโล! คือ ส่วน แต่นั้น เรามิใช่ กล่าวเช่นนั้น เลย กับการ ที่ พุทธจักรสายสุวรรณภูมิ เรากระทำการ มาอย่างเต็มรูปแบบ สายสุวรรณภูมิเรา ยังคงเลี้ยงบท หรือกินความหมายเดิม เรื่อยมา คือ ใช้ แกนเรื่อง สีโย! เป็น สุญโญ หรือเป็นศูนย์, แล้วทีนี้ หากพิจารณเรื่อง ศูนย์ หรือ ศีล หรือ สีโล! อย่างจะเอามาเทียบ ต้นธรรม ต้นบัญญัติ แล้ว ใคร่แต่จะไม่อยากเถียงด้วย ที่ว่า พระสงฆ์ สยามวงศ์เรา มิใช่แกนนำ ยังมิใช่กลุ่มนำ จะกล่าวอย่างเทียบเคียงประเทศสยาม หรือพระสยามวงศ์ ต่อไปทำไม?, แต่นั้น มิได้ตระหนัก ว่า นั่นเป็นการทำ หรือคล้อยไปเพราะศีลพรต และข้อวัตร ของสายอื่น มิใช่สายสุวรรณภูมิ แต่ยกขึ้นเป็นปัญหา หรือประเด็นแสวงหาปัญญา จากนั้น ซึ่งเมื่อถือปัญหาการสื่อ ว่าเป็นประเด็น ฉะนั้น คือกล่าวประพฤติ โดยความเป็นส่วน ต้องกล่าวศีล
แต่ นี้ ประพฤติ หรือเรื่องศีล, ที่จริง เราน่าที่จะพิจารณา ว่า เรามุ่งความหมายเท่าเดิม คือเราเป็นสายประพฤติปฏิบัติดี ด้วยความคงหลักเดิม ดังนั้น ก็ไม่น่าเลี่ยง หรือเกี่ยง ที่จะกล่าวปัญหาศูนย์ ว่าพึงเป็นเรื่อง สีโย! ตามความจริงของธรรมปฏิบัติ และความมิได้เสื่อมคลายจากหลักเดิม, เช่นนี้ แล้ว หากจะเทียบ บัญญัติธรรม หรือคำกล่าวแรกที่มนุษย์กล่าว พุทธจักร พุทธเขต พุทธอาณา สายสุวรรณภูมิ เราก็จะต้อง เทียบ บัญญัติธรรม บัญญัติแรก ที่ได้ประกาศ ในโลกมนุษย์ เทียบกับ สีโย! ไม่ต้องเทียบ สีโล! ซึ่งพึงต้องยกเป้นปัญหาการเทียบ ของพุทธจักรสายอื่น ที่เขา จะต้อง ว่า เรื่อง สีโล! เป็นเรื่อง ของ ศูนย์, นี้เป็นเรื่อง ระบบเทียบเคียง โคลงสร้าง หรือเรื่องของบทตั้ง
แล้ว เมื่อ เราไม่เขว ในเรื่อง ศีล แล้ว เราก็มีการกระทำภารกิจ หน้าที่ ธุระการงานประดามี ไปตามธรรมดา, โดยที่ ก็จะต้อง พิจารณา ถึง สาระตั้งต้น หรือมนูธรรมศาสตร์ ต่าง ๆ ไปตามบทต้น คือทำอย่างเก่า นั่นเอง ที่ต้องเทียบ หรือเทียมกัน กับ บัญญัติธรรม กำหนด แรก ที่ประกาศ ในมนุษยพิภพว่า มนุษย์กำเนิดในโลกแล้ว ประกาศ! บัญญัติธรรม บัญญัติแรกว่า อุแว้! เป็น ธรรม เป็นศีลมหาสมัย ประกาศธรรมบัญญัติแรก เป็นสีโย, นี้เป็นเรื่อง การเน้นธรรมสุญญตา เกี่ยวกับการประกาศธรรม ประกาศความบริสุทธิ์แห่งภาษา หรือประกาศความบริสุทธิ์ในทางภาษา, ซึ่ง ทุก ๆ ภาษา จะต้องประสบ อุปสรรคปัญหา หรือความวิบัติ ของภาษา ทุกภาษา ก็คือ ต้องพบปัญหา เรื่อง ศัพท์ แสลง หรือสแลง ในการที่จะตั้งศีล! แล้ว ต้องให้ตั้งขึ้นไม่ได้, และจะใช้ปัญญาเทียบเคียงของสายอื่นมาทำก็ไม่ได้ เพราะสายอื่นเขาไม่ได้มีภาระ ที่จะต้องตั้งสถาปนาในทุกสิ่งสารพัด เหมือนเรา จึงมิต้องประพฤติรูปแบบ”
|