Fwd: [Siam Mukdahan] ได้รับข้อความใหม่

2 views
Skip to first unread message

Phra Visarado

unread,
Jun 3, 2025, 11:10:11 AMJun 3
to nirutt...@googlegroups.com, nirutt...@googlegroups.com, wa...@googlegroups.com, wa...@dr.com, dats...@outlook.co.th



---------- Forwarded message ---------
From: ฟอร์มสำหรับติดต่อ Blogger <no-r...@blogger.com>
Date: Tue, Jun 3, 2025 at 10:05 PM
Subject: [Siam Mukdahan] ได้รับข้อความใหม่
To: <91sia...@gmail.com>, <hnu.hnu....@gmail.com>, <91ca...@gmail.com>, <x.ope...@gmail.com>


📖💻🪪🖱️…⌨️✍️🔩🧑‍💻

“ถ้าพูดให้กว้างขึ้น หรือเกินกว่า เรื่องสมณธรรม, เรื่อง! พึงคงต้องดูว่า 
เรื่องที่เข้ามากระทบ หรือความที่เข้ามากระทบ ให้เกิดมี ดำริ!มาอย่างไร? 
จากการที่ต้อง ให้ได้การบำรุงบำเรอกันอยู่ด้วยดี ทั้งเวลา เช้า สาย บ่าย 
และค่ำ, อันเรื่อง ก็ต้องดูว่า หรือได้ถืออยู่แล้วว่า บริษัท!นั้น ถึงธรรม 
หรือถือธรรมของใคร?กันเล่า หรือได้ถึงการก่นโคตร แก่อะไร? หรือใคร? ในประดาพวก 
คหบดีมหาศาล ๑, พวก พราหมณ์มหาศาล ๑, และ หรือ พวกกษัตริย์มหาศาล ๑, เพราะ 
เมื่อใด ที่ถึงที่ พอความแก่บริษัทนั้น บริษัทนั้น ๆ ก็ย่อมจะเลี่ยงความ 
คือการเกิด! ของชาติตนไม่ได้, เพราะว่า บริษัทพวกนั้น ที่ได้ออกจาก ประชุมชน 
หรือชุมนุมชน จากสังคม ไปเป็นนักบวช ถือพรต ได้ออกมาจาก พวก คหบดี หรือ 
ได้ออกมาจากพวกพราหมณ์ หรือได้ออกมาจากพวกกษัตริย์ โดยความเป็นธาตุ! 
หรือโดยความ ต้อง เป็นพลความ นั้น ๆ โดยเก่า, แล้วทีนี้ จึงจะถึง วิธีการ 
ให้การดำเนินการฟ้องร้อง จน ได้เรื่องอำนวย ทุกสิ่ง 
ไปถึงประโยชน์ที่เป็นไปตามธรรม, ค่าซึ่ง หมายความว่า ธรรม! ย่อมเกิดก่อน แล้ว 
อธรรม!จึงได้เกิดขึ้นภายหลัง, ฉะนั้น ด้วยเรื่องว่า ปรารภเหตุ! หรือคติ! 
ที่ว่าอยู่ ด้วยเรื่อง ของเจตนา หรือความเกิด ที่ไม่มีใครผู้ใดจะเลี่ยงได้เลย 
ในเรื่อง ที่พึงต้องแสดงญัตติ หรือแสดงด้วยบัญญัติ แก่การใช้พลความ 
หรือศึกษาสิ่งที่เป็นพลความ อยู่ด้วย กรณี นั้น ๆ

ด้วย ซึ่ง เรื่องเช่นนี้ ถ้าสมณะ พิจารณาธรรม! โดยความเป็นสมณะ ที่แท้ 
ก็ย่อมจะพิจารณาไม่ได้ อยู่โดย คติ! นั่นเอง, เพราะ โดยประมาณ ใน นัย! แห่งคติ 
ซึ่ง พระสัมพุทธเจ้า ได้ประทาน อยู่แล้วว่า จำความ ด้วยต้อง ถึงส่วน 
ที่มีความสำเหนียกในสมณธรรม และการประพฤติปฏิบัติตน อาทิ!ว่า เมื่อเรา ได้ 
‘หายใจเข้า ก็เท่ากับว่า ได้แย่งชิงรุกราน, ครั้งหายใจออกเมื่อใด? 
นั่นก็ย่อมเท่ากับ ได้กระทำ การเบียดเบียนทำร้าย’, ดังนั้น โดยที่จริง 
เมื่อเป็นอยู่โดย คติ! แห่ง ความประพฤติธรรม และไม่ประทุษร้าย เพราะ 
ประพฤติเป็นสมณะ ลงความ แก่การ จะไม่ กล่าวโทษ ฟ้องร้อง ฉะนั้น การฟ้องร้อง 
จึงมิจำเป็นต้องมี, เว้นแต่ว่า เกิดความ ต่อเมื่อให้ เสียธรรม! 
และให้เสียประพฤติไปอย่างนั้นแล้ว จึงจำต้องไปตั้งต้น จากการเกิด หรือความเกิด 
ที่ตนมีอยู่ อันซึ่ง ทำการเปลี่ยนแปลงไม่ได้, อันที่ซึ่ง ก็ย่อม เห็นว่า 
อันซึ่ง โคตรแห่งพราหมณ์ นั้น, อันซึ่ง โคตรแห่งคหบดี นั้น, และ ซึ่ง 
โคตรแห่งกษัตริย์ นั้น, จำจะต้องเป็นผู้พิพากษาอยู่โดยตนเอง โดยธรรมดา 
นั่นเอง, เพราะ เรื่อง ที่ จะ ดำริ!คิด แล้วให้ ทำ!ลิขิต อย่างไร? ได้, 
ย่อมมิใช่เรื่อง ที่สมณะจะต้องประพฤติ, เพราะ ความออกจากเรือน 
ที่พึงพอความแก่คำว่า สมณะ อันสมณะ จะจำพึงต้องประพฤติ 
ลงซึ่งแต่ความเป็นอาณัติตรา ซึ่งบทธรรมที่จะเป็นธรรม อันที่คืออนัตตา ธรรม 
อยู่ได้บ้าง อย่างแท้แล้ว, สมณะ หรือภิกษุ โดยแท้แล้ว 
ก็ย่อมที่จะไม่มีการกล่าวโทษ ฟ้องร้อง ที่จะทำคตินั้น 
ให้ไปสู่ความเป็นบ้านเป็นเรือน ขึ้นมาอีกครั้ง”

ขอแสดงความนับถือ
Phra Sukkadhammo | sth...@thai-consulate.org.hk

หมายเหตุ: อีเมลนี้ถูกส่งผ่านทางแกดเจ็ต “ฟอร์มรายชื่อติดต่อ” บน 
https://mukdahan-gov.blogspot.com
Samati Tham (2).png

Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages