Proper conduct to systems is required, Page 315. ☺

0 views
Skip to first unread message

สรรพาลังการ Thai ศัพท์

unread,
Nov 28, 2025, 10:07:09 AMNov 28
to reg...@googlegroups.com, wa...@googlegroups.com
blank
Vijja Bhagi
Proper conduct to systems is required, Page 315. ☺


 
คำว่า เอาญาติ เอาพี่ เอาน้อง เอาเพื่อน เอาฝูง, นี่หน่ะ! ความลึกซึ้ง หรือประเด็น ที่ พากย์ หรือ วิพากษ์ กันมาเรื่อย ๆ ในเรื่อง ของการ โน้มนำ หรือพาตนเอง ไปสู่การปฏิบัติ, เพราะ ด้วยที่เราต้องเห็นว่า แล่น หรือทะยานไปสู่การบวช แล้ว ต้องเอาหมด ในนัย! อย่างว่า นี่หล่ะ! คือ ต้อง เอาญาติ เอาพี่ เอาน้อง เอาเพื่อน เอาฝูง เอาสรรพอณู แห่งสรรพวิชาความรู้ คือ วิชชาภาคี มารวม ทั้งหมด, แล้ว เราไม่ต้องพิพากษา ความทะยานอยาก อย่างโน้น หรืออย่างนั้น, เพราะ ความว่า ภายนอก หรือภายใน, ลัทธิภายนอก หรือภายใน จะต้องเก็บความ หรือขยายความ ไปจากจุดนี้, อย่างในตำราคัมภีร์ แสดง นักหนา เหลือเกิน นั่นเอง ว่า ‘ใครเป็นพวกศากยะ หรือไม่ได้เป็นพวกศากยะ’, จรด ก็ย่อมหมายความ ลงที่ การ เอาญาติ เอาพี่ เอาน้อง เอาเพื่อน เอาฝูง เอาสรรพกิจวิทยา เช่นนั้น นั่นเอง มากล่าวถึงความเป็นลัทธิภายนอก หรือลัทธิในทางภายใน, ซึ่ง ในที่นี้ เรากล่าวกันไปถึง ลัพธ์ หรือผลลัพธ์ ของปรากฏการณ์ ดังกล่าว ในเรื่อง ของ ‘วิมุตติ’, โดยสำคัญ แต่การ หาว่า ‘นิรุตติ ไม่รู้! วิมุตติ’, การกล่าวเรื่อง ญาณ หรือปัญญา ในทางรูปธรรม ไม่ใช่ ‘วิมุตติ’, เพราะ ต้องพูดกล่าวอย่างซ่อนความ หรือแสดงรอยเท้าในอากาศไม่ได้ อยู่เท่านั้น, มิต้องสำคัญการสถิต หรือตั้งต่อสำคัญอะไรให้, เพราะ ศึกษา เรื่อง พระพุทธบาท ๔ รอย หรือ ๑ รอย, ว่า รอย ที่ไม่พบ ฉะนั้น จะเผยแจ้งโดย นิรุตติ! หรือ โดย วิมุตติ!, เพราะเรื่อง สายทางของตนเอง และโคตรของตนเอง เป็นรอยของตนเอง
 
แล้วนี้ แสดง โดยย่อ ในเรื่องของ ‘อวิชชา’ สำหรับ วิชา ที่ต้องเอาพี่ เอาน้อง เอาญาติ เอาพ่อ เอาแม่ เอาเพื่อน เอาฝูง และลูกหลานเหลนโหลน เราก็เอาไว้หมด, จึงกล่าวแก่ความเป็น ภาคี หรือ กล่าวความ ไม่เป็นภาคี ในสิ่งที่ต้องกระทำ หรือได้กระทำ แล้ว, เพราะ การ ซ้องเสพ และเสวนา อยู่ ในกระบวนแห่งเทคโนโลยีการศึกษา และเทคโนโลยีการสื่อสารกัน อยู่เช่นนี้, อันเป็นความมิให้จะต้อง ได้ไปกำหนด ว่าการที่ ได้นำพาตนเองไปสู่การปฏิบัติ ต้อง หมายถึง การพากย์ การกระทำ ไปด้วยเจตนาอะไร? เพราะที่ต้องพัฒนา คือ ต้องพัฒนาปัจจัยต่าง ๆ ให้เปิดกว้าง และต้องให้รองรับอยู่ได้โดยดี ในเรื่อง ที่ พี่ น้อง เพื่อนฝูง ญาติมิตร พ่อแม่ ปู่ย่าตาทวด และลูกหลานเหลนโหลน จะหวนกลับมามองเห็น หรือได้รู้จักแล้ว ไม่เดือดร้อน ทีนี้ ก็จึงอยากที่จะแสดงเรื่อง ‘อวิชชา’, ว่า การที่จะเห็น ‘รอยเท้าในอากาศ’ ได้นั้น เป็น วิชา!, และเป็นสัจธรรมความจริง ของการไม่ทิ้งสิ่งความต่าง ๆ, ด้วย ว่า การรู้ ‘รอยเท้าในอากาศ’ ได้นั้น หรือ เห็น ‘รอยเท้าในอากาศ’ ได้นั้น, ไม่ใช่ว่า เป็นการรู้ ที่ไม่เท่ากัน กับ ‘วิมุตติ’, เพราะว่า จะบอกให้ ทุก ๆ ท่าน ทราบเลย ว่า หากว่า ได้รู้ โดย ‘ปัญญา ญาณ และนิรุตติ’ ได้ ก็ย่อมรู้แต่โดยความจริงอันเดียวกัน ว่า ‘รอยเท้าที่ในอากาศ’ เช่นใด เช่นนั้น! ก็ย่อมมีอยู่ ๔ รอย, แลซึ่ง วิชชาภาคี หรือไม่เป็นภาคี ว่า วิชานี้ หรือคำสอนนี้ มันมีข้อแตกต่าง, ลงที่ความต่าง ฉะนั้น ก็เพราะว่า พุทธกัป ชื่อ สารกัป ย่อมไม่มีภาคี ที่กล่าวว่า มีรอยเท้าในอากาศ ทว่า พุทธกัป ชื่ออื่น และทั้ง ภัทรกัป นี้ด้วย ย่อมแต่จะต้องกล่าวความ มี หรือไม่มี รอยเท้าในอากาศ, เพราะ เป็นกัป ที่มี พระสัมพุทธเจ้าเป็นอยู่ตลอดกัป มากกว่า ๑ พระองค์
 
 
Sadhu.
Pali Ariyakaーscript :
Sattamano
 
blank
Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages