“ดังนี้ ที่จริง เรื่องย่อมคิดไปถึง การที่ประเทศใหญ่ ๆ ในโลก ทำการประกาศ
หรือออกกฎหมายอวกาศ อะไรทำนองนั้น, ตามที่เคยได้ทราบมาบ้าง, ดังนี้แล้ว
หากมองเนื้อหา ตามความเป็นจริง แล้ว การที่จะประกาศว่า
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เพียงเท่านั้น ก็อาจจะ จึงยังไม่ถูก แลไม่สม!,
เพราะ ที่จริง เป็นศาสนาประจำชาติดินแดนสุวรรณภูมิ ไปทั้งหมดทั้งนั้น,
และทั้งที่จริง คัมภีร์ ก็ย่อมแสดงว่า เป็นศาสนา ประจำ ๑ หมื่นจักรวาล
ซึ่งนับว่าสำหรับผู้ศึกษาคัมภีร์ ด้วยดีแล้ว ก็ย่อมมีความเข้าใจ อย่างนี้
เท่าที่ได้ทราบมา ตามความเป็นจริง ที่เป็นความธรรมดา, ดังนั้น อาตมาเห็นว่า
ฉะนั้น ให้มีการ ประกาศว่า เป็นศาสนาประจำดินแดนสุวรรณภูมิ ฉะนั้น จึงจะ
ชอบธรรม! ดีกว่า, เพราะเป็นเรื่อง ความจริงเชิงประจักษ์ เพราะเป็นเรื่อง อัน
มิใช่การตั้งแง่ ไป เพื่อการช่วงชิง หรือมีเปรียบ ในการที่จะให้ได้มา
ซึ่งทรัพยากรบุคคล และหรือทรัพยากรที่มีตามธรรมชาติ, ดังนั้น เช่นนั้น
การที่เราจะพึงประกาศว่า เป็นศาสนาประจำดินแดนสุวรรณภูมิ จึง
จะเป็นความจริงแท้จริง ได้อยู่, และก็ย่อมมีโอกาส ที่จะทำให้รุ่งเรือง
และสำเร็จได้ ด้วยกำลังของตนเอง โดยที่มิต้องไปสนใจหรอกว่า เรื่อง
จะได้เป็นศาสนาประจำโลก หรือได้เป็นศาสนาประจำจักรวาลหรือไม่ เพราะ ด้วยเหตุ
แลผล ตามปรากฏการณ์ ที่เป็นความจริงเชิงประจักษ์ อันยังมิปรากฏ ได้
และยังไปไม่ถึง ได้,
เช่นนั้น จำพึง ที่มนุษย์เรา จะควรต้องยอมรับว่า โลกได้มีพระพุทธาณาจักร คือ
ดินแดนพระพุทธาณาจักรสุวรรณภูมิ ตามความธรรมดา ตามความปรากฏแท้จริง,
ถึงแม้นว่า จะมีการเถลิง หรือแถลง แค่การสืบต่อ แลความปรากฏมาตลอด ด้วยการ
สถาปนา โดยแต่ใช้ภาษาเสียงเท่านั้น ก็ตาม มิได้ สถิต หรือแถลง
แสดงไว้โดยภาษารูป หรือภาษาเอกสาร, ตามงานอย่างที่จะเป็นอย่าง กัป! หรือ วาระ
ที่มีแต่พระจักรพรรดิ์ หรือพราหมณ์, แต่เนื่อง กับงาน ที่เรียกว่า เป็น
‘พุทธกัป!’, อันตามความ แห่ง ตรารูป ตราเสียง และอาณัติสัญญาที่ ได้
ตามบทแห่งพระคัมภีร์ นั่นเอง, คือดวงอาทิตย์ พึงเป็นที่ประกาศพุทธศาสนา
หรือดวงจันทร์พึงเป็นที่ประกาศพุทธศาสนา
หรือพึงจะเป็นดาวอังคารที่พึงเป็นที่ประกาศและเป็นที่ตั้งธงพระพุทธศาสนา, ซึ่ง
นักศึกษาความจริงเชิงประจักษ์ ที่มีที่ปรากฏ โดยรูปธรรม
ตามแต่หน้าประวัติศาสตร์ มีแล้วปรากฏแล้ว, ก็จะเห็นว่า การที่โลก ในสมัย
ที่เรามีดาวดวงที่ ๒ อยู่ใต้พื้นฝ่าเท้าแล้วนี้, อาณาจักรสุวรรณภูมิ มีสิทธิ์
โดยชอบธรรม สำหรับ บัลลังก์ ของดินแดนเหล่านี้ โดยทั้งหมด, หากแต่เพียงว่า
เวลา ยังไม่ถึงจุดนั้น ในตอนนี้, คือ ย่อมเห็นได้ชัดว่า อาณาจักรสุวรรณภูมิ
มีสิทธิ์ ในบัลลังก์ อเมริกา (เพราะเป็นที่ประสูติของพระภัทระ) และมีสิทธิ์
ในบัลลังก์จีน (เพราะกษัตริย์ไทยถือเป็นอ๋อง แห่งรัฐในระบบจักรพรรดิ์จีน
ที่ยังคงเถลิงความเป็นราชา หรือราชาธิราชอยู่ได้โดยแท้),
และอาณาจักรสุวรรณภูมิ ก็ย่อมมีสิทธิ์ ในบัลลังก์อินเดีย คือชมพูทวีป
อยู่โดยแท้ด้วย เพราะที่นั่น เป็นดินแดนที่ประมุข! ของเราถึงการประสูติ
แลประทาน พระพุทธาณาเขต, ดังนี้ เมื่อ พูดถึง การทำงาน ตามธรรมชาติ
หรือทำไปตามหน้าที่ (แห่งความเป็นพุทธกัป), แน่นอนเลยว่า ก็ย่อม มิได้มีธรรมดา
ที่ใด จะพึงปรากฏแนวคิดเรื่องศาสนาประจำชาติ, และเพราะที่จริง ประเทศ ก็คือ
ประเทศโลก! ไปแล้ว ตามธรรมชาติแท้จริง ทั้งหมด,
ซึ่งการสลาย!ตัวลงในเรื่องของเขตแดน อย่างไรนี้,
โลกพึงคงพัฒนาไปสู่เรื่องการมีกองกำลังพระ หรือกองกำลังตำรวจไปเท่านั้น,
เพราะสงครามขนาดใหญ่ ไม่ใช่ประเด็น และอาจไม่ใช่เหตุผล ที่แท้จริง ก็อาจเป็นได้
หากเมื่อต้องแถลง โดยความไม่กลัว และไม่เสียใจ เลย
ในเรื่องของการประกาศทิศทาง! และที่ตั้ง!ของภารกิจ, อันจะพึงประกาศ
จะพึงแถลงความจริงที่ปรากฏ อยู่ด้วยการศึกษา จะพึงประกาศอย่างไร?,
เพราะสงครามยืดเยื้อ! ในปัจจุบันนี้ มันปรากฏความไม่ลงรอยกัน
หรือได้ความที่ไม่ประสานกัน, ความจริงมันมาจากเรื่องที่ไม่ลงกัน, ซึ่ง
ระหว่างคหบดีมหาศาล ๑, กษัตริย์มหาศาล ๑, และก็พราหมณ์มหาศาล ๑,
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกนี้ทำอะไร? ในการมี ‘ดำริ!คิด’ ก็ไม่สำคัญ
เท่ากับภาษาที่จะใช้สถาปนาพระพุทธาณาจักร, เพราะ ความขัดแย้ง! ร้าว!
หรือไม่ลงรอยกัน ของพวกนี้ มันมาจากเรื่อง ของการ ‘ทำ!ลิขิต’,
ซึ่งอาจจะยังไม่เป็นธรรมชาติ ของความเป็นจิตอนันต์ หรือวัตถุอนันต์
อะไรเลยก็อาจเป็นได้, โลกเราปัจจุบันจึงยังต้องประสบภาวะ อลเวง!
อยู่อย่างไม่เข้าท่า ไปอย่างนี้ได้,
โดยที่ยังไม่ได้มีการประกาศศาสนาด้วยดวงจันทร์
และไม่มีการประกาศศาสนาด้วยดวงอาทิตย์ และไม่มีการประกาศศาสนาด้วยดาวอังคาร,
ทำยังไม่ได้เลย ด้วย เพราะทุกที่ ยังมิได้ไปสู่ หรือไปถึงปรากฏการณ์แท้จริง
อย่างนั้น ซึ่ง ความจริง ในเชิงประจักษ์อย่างนั้น”
此致
Phra Nirut Tissavamso |
wa...@dr.com
注:本邮件是通过
https://saphanirutti.blogspot.com 上的联系表单小工具发送
的。