คมนาคม เปิดทาง กทพ. ขึ้นค่าทางด่วน 5 บาท ก.ย.นี้
รม
ช.คมนาคม เปิดทางบีอีซีแอล ขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทาน
หวั่นถูกเอกชนฟ้องร้อง โยนการทางพิเศษแบกภาษีมูลค่าเพิ่มต่อ - ด้าน กทพ.
จ่อขึ้นค่าผ่านทาง 5 บาท มีผล 1 กันยายน ปีนี้ เมื่อ
วันที่ 13 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม
เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1)
และทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ตามสัญญาสัมปทานในเดือนกันยายน 2556
นี้ว่า ตนได้มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
พิจารณาตามขั้นตอนและให้เป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่าง กทพ.
กับบริษัททางด่วน–กรุงเทพ ที่มีเงื่อนไขให้ปรับทุก ๆ 5 ปี
ตามอัตราเงินเฟ้อและดัชนีผู้บริโภค (CPI) ที่เพิ่มขึ้น
โดยหากผลพิจารณาออกมาว่าต้องปรับขึ้น ก็คงไม่สามารถยับยั้งได้ เพราะ
ต้องคำนึงถึงสัญญาสัมปทานกับเอกชนด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นกรณีที่ไม่ให้ปรับขึ้นค่าผ่านทางตาม
สัญญามาแล้ว ทั้งนี้ ทางผู้บริหารบีอีซีแอลได้มาพบตนแล้ว
โดยแจ้งให้ทราบว่าในปีนี้ครบ 5 ปีที่จะต้องขอปรับขึ้นค่าผ่านทาง
ตนให้ไปหารือในรายละเอียดสัญญากับ กทพ. และให้เสนอมาตามขั้นตอน
สำหรับกรณีที่ กทพ. ต้องแบกรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat 7%)
แทนผู้ใช้ทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 คิดเป็นเงินกว่า 800
ล้านบาทต่อปีสะสมมาตั้งแต่ปี 2535 เป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทนั้น
พล.อ.พฤณฑ์ กล่าวว่า
ต้องมีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนว่าจะเหมาะสมหรือไม่กับการผลัก
ภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้ผู้ใช้ทางในขณะนี้
จะกลายเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ใช้ทางมากเกินไปหรือไม่
เนื่องจากเป็นช่วงที่จะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางด้วย ซึ่งเห็นว่า กทพ.
ยังพอรับภาระนี้ต่อไปได้ไม่เสียหายและก่อนหน้านี้เคยรับภาระมาตลอด
ทางด้าน นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า คาดว่าเบื้องต้นจะปรับขึ้นประมาณ 5 บาท
ซึ่ง กทพ. จะเริ่มเจรจากับบีอีซีแอลในเดือนมีนาคมนี้
หลังจากนั้นต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. คณะรัฐมนตรี
(ครม.) และต้องประกาศล่วงหน้า ซึ่งอัตราใหม่จะมีผลในวันที่ 1 กันยายน
2556 ส่งผลให้อัตราค่าผ่านทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ จาก
45 บาท เป็น 50 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ จาก 70 บาท เป็น 80 บาท และรถยนต์ 10
ล้อขึ้นไป จาก 100 บาท เป็น 115 บาท
ส่วนสัญญาสัมปทานทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) และทางพิเศษศรีรัช
(ทางด่วนขั้นที่ 2) ระหว่าง กทพ. กับบริษัท
ทางด่วนกรุงเทพที่จะสิ้นสุดในอีก 9 ปี
ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเพราะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร
จะให้ กทพ. บริหารจัดการทางด่วนเอง หรือจะเจรจากับบริษัท
ทางด่วน–กรุงเทพเพื่อต่อสัญญา ซึ่งในสัญญาระบุไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาแล้ว กทพ.
ต้องเจรจาต่อสัญญากับบีอี–ซีแอลก่อนวิธีการอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม
การบริหารสัญญาเองจะมีข้อดีที่รัฐจะกำหนดหรือลดราคาค่าผ่านทางได้ง่าย
โดยไม่ต้องเจรจากับเอกชนก่อน
ทั้งนี้ ปริมาณจราจรบนทางด่วนล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2555 เฉลี่ย 1.7
ล้านคันต่อวัน โดยเคยสูงสุดถึง 1.8 ล้านคันต่อวัน
ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีประมาณ 500,000 คันต่อวัน
และมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 2 ล้านคันต่อวันภายในเดือนเมษายนนี้
--
อยากทำให้ดีที่สุดตราบเท่าที่ทำได้
โลกไม่ได้ทำให้เรารวยแต่กำเนิด
เพราะโลกอยากให้เรารู้ .วิถีแห่งโลก.
٩(͡๏̯͡๏)۶٩(-̮̮̃-̃)۶ ٩(̾●̮̮̃̾•̃̾)۶
วุธ ผู้ชายไม่เคยเหงา