เซ็ง !โอลิมปิก จอมืดซ้ำยูโร เหตุ"ทีวีพูล-ช่อง11-ทรูฯ"ซื้อลิขสิทธิ์บังคับให้ออกอากาศเฉพาะภาคพื้นดิน
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ผู้บริหารโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวในงานสัมมนาโต๊ะกลม เรื่อง
"โอลิมปิก และบอลโลก ทางออกผู้บริโภค ไม่ต้องชมจอดำ" ว่า
ในเรื่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ระหว่างวันที่ 27
กรกฎาคม - 12 สิงหาคมนี้ ทางช่อง 3 ในฐานะหนึ่งใน
ผู้ถ่ายทอดสดได้ร่วมกับช่อง 5, 7 และ 9
ในนามของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล)
ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจากทางสหภาพวิทยุการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (เอบียู) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลาง
ในภาคพื้นอาเซียนที่รวมตัวกันซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันโอลิมปิกจากเจ้าของ
ลิขสิทธิ์ที่แท้จริงจากทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)
นาย
สุรินทร์กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องรวมตัวกันซื้อเพื่อจะทำให้ได้ราคาที่ถูก
เนื่องจากปัจจุบันมูล ค่าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดปรับขึ้นไปสูงมาก
แต่ข้อติดขัดในตอนนี้อยู่ที่ลิขสิทธิ์ที่ทางทีวีพูลที่ได้มาจากเอบียูนั้น
เป็นลิขสิทธิ์ในรูปแบบของการบังคับให้ออกอากาศได้เฉพาะในระบบภาคพื้นดินเท่า
นั้น ไม่อนุญาตให้ถ่ายทอดสัญญาณในระบบเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมต่อ
ซึ่งการถ่ายทอดสัญญาณไปยังระบบทีวีดาวเทียมจะต้องเป็นแบบระบบเข้ารหัส
อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิคผู้ประกอบการสามารถเข้ารหัสได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว
ขึ้นอยู่กับทางผู้ประกอบการจะทำหรือไม่
"ขณะนี้ทางตัวแทนของทีวีพูล
กำลังเร่งรัดการเจรจากับไอโอซี
เพื่อขออนุญาตเป็นการพิเศษให้แก่ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมไทยให้สามารถส่ง
ต่อสัญญาณแพร่ภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะเจรจาได้สำเร็จ
ตอนนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า
ประชาชนที่รับชมผ่านช่องทางเหล่านี้จะต้องจอดำ" นายสุรินทร์กล่าว
นาย
สุรินทร์กล่าวว่า
ผู้ที่ถือลิขสิทธิ์อนุญาตแพร่ภาพถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกในไทย
ไม่ได้มีแต่ทางทีวีพูล แต่ยังมีสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง 11
ที่ซื้อลิขสิทธิ์โดยตรงจากทางเอบียู
ในลักษณะบังคับการออกอากาศเฉพาะภาคพื้นดินเช่นเดียวกัน และบริษัท
ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ที่ซื้อลิขสิทธิ์โดยตรงจากทางไอโอซี
ด้าน
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กำกับดูแลด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า
ได้เตรียมนำกรณีปัญหาการถ่ายทอดสดโอลิมปิกเข้าหารือในบอร์ด กสท.วันที่ 9
กรกฎาคมนี้ ถึงแนวทางการจัดการปัญหาทีวีจอดำ
โดยช่วงกลางสัปดาห์หน้าจะเข้าพบนาย วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลช่อง 11 โดยตรง
เพื่อหารือถึงทางออกของปัญหา อาทิ ให้ช่อง 11 ไปร้องขอไอโอซี
หรือหากไอโอซีไม่ยอม อาจมองไปถึงการให้รัฐเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการให้ช่อง
11 ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสัญญาณทุกช่องทาง โดยในเร็วๆ
นี้จะเชิญทางผู้บริหารช่อง 11 และทีวีพูล มาร่วมหารือร่วมกัน
น.ส.สุ
ภิญญากล่าวว่า
ต้องการให้ช่องฟรีทีวีที่ปรับผังรายการเพื่อถ่ายทอดสดโอลิมปิก
ต้องทำเรื่องมาให้ กสทช. พิจารณาตามข้อบังคับ มาตรา 34
พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ส่วนในระยะยาว กสทช.
จะจัดทำรายละเอียดร่างหลักเกณฑ์การนำพาช่องรายการโทรทัศน์ที่สามารถรับชมได้
เป็นการทั่วไปหรือ "มัสต์ แครี" ให้ครอบคลุมการแก้ปัญหา
ผ่านการหารือร่วมกับกรมทรัพสินทางปัญญา
รวมทั้งการจัดทำร่างประกาศจะทำให้ครอบคลุมการนำเข้ากล่องที่บังคับให้สามารถ
เข้ารหัสสัญญาณได้ หรือมีช่องให้สามารถเข้ารหัสได้ด้วยการนำการ์ดเสียบได้
"โอลิมปิก
เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า สำคัญกว่า และจะมีผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า
หากเกิดปัญหาจอดำ ขณะที่ กสทช.ยังออก มัสต์ แครี มากำกับดูแลไม่ทัน
ดังนั้นการแก้ปัญหาเบื้องต้นอยากให้เป็นการหาทางออกร่วมกันระหว่างผู้ประกอบ
การฟรีทีวี และทีวีดาวเทียม โดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง"
น.ส.สุภิญญากล่าว
ส่วนตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7
กล่าวว่า หากจะนำปัญหาการถ่ายทอดสดขึ้นมาถกเถียงกันจริง ขอยืนยันว่า
ที่ผ่านมาช่อง 7 ไม่เคยอนุญาตให้ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม
หรือเคเบิลทีวีรายใดนำสัญญาณภาพของช่อง 7 ไปออกออกกาศ จึงถือว่า
ผู้ที่นำสัญญาณภาพช่อง 7 ไปออกอากาศต่อทำผิดมาโดยตลอดเป็นเวลากว่า 20 ปี
ตั้งแต่ไทยมีระบบทีวีดาวเทียมเข้ามา
ขณะที่ตัวแทนบริษัท พีเอสไอ
โฮลดิ้งส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียม "พีเอสไอ" ระบุว่า
การแก้ปัญหาการรับชมผ่านกล่องรับสัญญาณดาวเทียม
หากสามารถเข้ารหัสกล่องรับสัญญาณได้ จะช่วยแก้ปัญหาได้ประมาณ 9 ล้านกล่อง
จากจำนวนที่มีประมาณ 10.5 ล้านกล่อง
รวมทั้งในทางเทคนิคจะมีวิธีป้องกันสัญญาณดาวเทียมออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม
ความเสี่ยงในการปลดล็อกรหัสและออกอากาศด้วยตัวเอง
จะขัดต่อการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์แน่นอน
และทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำแบบนี้
นายวิชิต
เอื้ออารีวรกุล อุปนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
ในส่วนของเคเบิลทีวี การรับชมกีฬาโอลิมปิกจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เนื่องจากสถานีท้องถิ่นสามารถเปลี่ยนตัวรับสัญญาณแพร่ภาพโทรทัศน์จากระบบดาว
เทียม มาเผยแพร่ให้ลูกค้าในระบบที่รับสัญญาณตรงจากเสาก้างปลาแทนได้
แต่อาจจะมีปัญหาสัญญาณภาพที่ลดลง
นอกจากนี้ในส่วนของทีวีดาวเทียมคงเป็นเรื่องยากที่จะได้ถ่ายทอดสด
เพราะคงไม่มีผู้ประกอบการรายใดกล้าเสี่ยงต่อการถูกฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์
โดยผู้รับชมในระบบนี้ที่มีอยู่ราว 5 ล้านครัวเรือนในประเทศ
ต้องประสบปัญหาจอดำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางแก้มีเพียงทางเดียวคือ ต้องให้
กสทช.สั่งให้ช่อง 11
ในฐานะทีวีของภาครัฐซื้อลิขสิทธิ์เพิ่มเติมจากทางไอโอซี
ด้านนาย
รุ่งรัตน์ ศรีไพรสนธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจบรอดแคสต์
บริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของอาร์เอส
ที่เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2014
ได้รับลิขสิทธิ์มาในฐานะที่สามารถเผยแพร่ได้ทุกช่องทาง
ฉะนั้นบอลโลกจะไม่มีปัญหาจอดำแน่นอน ทั้งนี้
มีกลุ่มเดียวที่ไม่สามารถรับชมได้
คือผู้ที่รับชมผ่านกล่องชนิดเก่าของทีวีดาวเทียมในชนิดที่ไม่สามารถเข้ารหัส
สัญญาณได้ ซึ่งปัจจุบันเหลือจำนวนน้อยมาก
มติชน 6 กรกฎาคม 2555
--