บริการเจาะสำรวจดิน ทดสอบดิน
6 views
Skip to first unread message
sexyt...@gmail.com
Oct 17, 2023, 1:23:01 PM10/17/23
to เจาะสำรวจดิน
ทีมของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเจาะสำรวจและวิเคราะห์ดิน พร้อมตอบสนองความต้องการของท่านในทุกๆ สถานการณ์ ด้วยวิศวกรโยธาที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวิเคราะห์ดิน ทางเรามุ่งมั่นในการให้บริการที่มีคุณภาพ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกฐานรากที่เหมาะสมสำหรับสภาพดินของท่าน ให้ความมั่นใจว่า
"การเจาะสำรวจดินของเรา คือ การรับรองความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ"
บริการเจาะสำรวจและวิเคราะห์ดิน [ Soil Boring Analysis ]
ดินที่อยู่ในชั้นล่างมีความสำคัญต่อการก่อสร้างและโครงสร้างต่างๆ คุณสมบัติและกำลังของดินสามารถแตกต่างไปตามพื้นที่ การดำเนินการเพื่อรับตัวอย่างดินเพื่อวิเคราะห์และทดสอบจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างดิน ดินเป็นวัสดุที่มีความละเอียดและความไวต่อการกระเทือน หากมีการกระทบหรือกระเทือน โครงสร้างดินอาจเปลี่ยนแปลง ทำให้ผลการวิเคราะห์ไม่ตรงกับความเป็นจริง ดังนั้น การเจาะสำรวจดินและการเก็บตัวอย่างดินจึงต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมสำหรับแต่ละโครงการ มีเครื่องมือเจาะดินที่ใช้ในการเจาะสำรวจดิน ได้แก่ เครื่องเจาะแบบ Motorize System และ Rotary Drilling โดยใช้
หัวเจาะขนาด 100 มิลลิเมตร (4นิ้ว) และเพื่อป้องกันการเกิดการพังทลายของผนังหลุมเจาะ จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Protective Casing) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ตั้งแต่ความลึกประมาณ 1.50 เมตรถึง 3.50 เมตร และการเจาะที่ใช้เป็นแบบวิธีการฉีดล้าง (Wash Boring :Water Flushing Technique)
วิเคราะห์ความแน่นของดินในสนาม [ Field Density Test ]
ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน, สนามบิน, พื้นที่โรงงาน, เขื่อนดิน, การบดอัดดินเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสมกับประเภทของดินและวัสดุที่ใช้ หลังจากการบดอัดดินเสร็จสิ้น, จำเป็นต้องตรวจสอบว่าดินที่บดอัดมีความแน่นตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เช่น งานชั้นรองพื้นทางและชั้นพื้นทางจะต้องบดอัดให้ถึง % ที่กำหนด ส่วนงานดินถมจะต้องบดอัดให้ถึงตาม % ของความแน่นที่กำหนดที่ลดหลั่นลงมาตามวิธีการและมาตรฐานการทดสอบ การบดอัดดินต้องคำนึงถึงความชื้นและพลังงานที่ใช้ในการบดอัด
การวิเคราะห์ความแน่นของดินคือการวัดน้ำหนักของดินในพื้นที่ที่บดอัดแล้ว และหารด้วยปริมาตรของดินที่ถูกขุดขึ้น การวัดปริมาตรดินที่ถูกขุดขึ้นสามารถทำได้โดยใช้วิธีที่มีความแม่นยำ เช่น วิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Standard Sand Method) หรือวิธีใช้น้ำ (Water Replacement Method) ทั้งสองวิธีนี้มีหลักการที่คล้ายคลึงกัน แต่เลือกใช้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์และความต้องการของโครงการ
หัวเจาะขนาด 100 มิลลิเมตร (4นิ้ว) และเพื่อป้องกันการเกิดการพังทลายของผนังหลุมเจาะ จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Protective Casing) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ตั้งแต่ความลึกประมาณ 1.50 เมตรถึง 3.50 เมตร และการเจาะที่ใช้เป็นแบบวิธีการฉีดล้าง (Wash Boring :Water Flushing Technique)
วิเคราะห์ความแน่นของดินในสนาม [ Field Density Test ]
ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน, สนามบิน, พื้นที่โรงงาน, เขื่อนดิน, การบดอัดดินเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสมกับประเภทของดินและวัสดุที่ใช้ หลังจากการบดอัดดินเสร็จสิ้น, จำเป็นต้องตรวจสอบว่าดินที่บดอัดมีความแน่นตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เช่น งานชั้นรองพื้นทางและชั้นพื้นทางจะต้องบดอัดให้ถึง % ที่กำหนด ส่วนงานดินถมจะต้องบดอัดให้ถึงตาม % ของความแน่นที่กำหนดที่ลดหลั่นลงมาตามวิธีการและมาตรฐานการทดสอบ การบดอัดดินต้องคำนึงถึงความชื้นและพลังงานที่ใช้ในการบดอัด
การวิเคราะห์ความแน่นของดินคือการวัดน้ำหนักของดินในพื้นที่ที่บดอัดแล้ว และหารด้วยปริมาตรของดินที่ถูกขุดขึ้น การวัดปริมาตรดินที่ถูกขุดขึ้นสามารถทำได้โดยใช้วิธีที่มีความแม่นยำ เช่น วิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Standard Sand Method) หรือวิธีใช้น้ำ (Water Replacement Method) ทั้งสองวิธีนี้มีหลักการที่คล้ายคลึงกัน แต่เลือกใช้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์และความต้องการของโครงการ
Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages