เมื่อ 10/13/09, naripat sudsanguan <
npat...@hotmail.com> เขียนว่า:
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
> .เบื้องหลังการโจรกรรมรถยนต์
>
>
>
> ด้วยเหตุที่ว่าผมมออกรถใหม่ ก็เลยลองหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์
> พอดีมาเจอหัวข้อนี้เข้า เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยเอามาฝากเพื่อนๆ ครับ
> ก่อนอื่นเลย มาดูว่าโจร เข้าไปในรถเราได้อย่างไร
> โจรต้องหาวิธีเข้าไปภายในรถยนต์ของเราให้ได้ก่อน
> ปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายวิธีได้แก่
>
>
>
> 1 กุญแจปลอม
> ถ้าคนร้ายมีกุญแจเหมือนกับเรา ก็เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของรถนั่นเอง
> วิธีการที่ผู้ร้ายจะได้กุญแจปลอมนั้นได้แก่
> การแอบปั้มกุญแจเช่นเวลาที่เรานำรถไปจอดซ่อม ล้างอัดฉีด ซื้อรถจากโชว์รูม
> เต็นท์ขายรถมือสอง จากเจ้าของเก่าที่ไว้ใจไม่ได้
> หรือที่นิยมสมัยนี้คือการติดต่อซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต
> แล้วแอบมาปั้มลูกกุญแจเวลาเจ้าของเผลอ ซึ่งคนร้ายจะติดตามมาถึงบ้าน
> และที่จอดรถประจำเพื่อโขมย
>
>
>
> 2 เหล็กแข็งแทนกุญแจ
> คนร้ายจะใช้เหล็กขนาดเท่ากุญแจรถแต่เป็นเหล็กแข็ง
> ส่วนมากจะดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยมมุมฉากสแตนเลสที่มีความแข็ง
> ตีเข้าที่รูกุญแจแล้วใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย และหมุนจนตัวล็อคเปิดออก
> เป็นอีกวิธี หนึ่ง ที่คนร้ายชอบใช้กัน
>
>
>
> 3 ใช้ลวดแข็งเกี่ยวตัวล็อคประตู
> ถ้าใครเคยลืมกุญแจไว้ในรถแล้วเรียกช่างมาปลดล็อคกุญแจจะเคยเห็นว่า
> ช่างจะใช้ลวดเชื่อมยาวๆเบอร์แข็งๆ ดัดทำเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำประตูออก
> และใช้ลวดแยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อคให้เด้งขึ้น
> เสมือนมีคนอยู่ในรถแล้วดึงปุ่มเปิดประตูขึ้น
> หรือใช้ฟุตเหล็กแยงให้ตรงกับคันชักกลอนประตูให้เด้งลง
> หรือใช้ลดแยงทางมือเปิดประตูเพื่อมาดันตัวกดล็อกให้เด้งขึ้น
> วิธีนี้ถ้าช่างที่มีความชำนาญจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
>
>
>
>
>
> 4 งัดประตูหูช้าง
> พวกรถกระบะแค็บที่มีประตูหูช้าง โจรจะใช้ลวดแข็งมากๆงอเป็นตัวยู
> สอดเข้าไประหว่างกระจกแค็ปแล้วงัดแรงๆ กระจกจะเปิดออก แล้วจะงัดตัวล็อคให้หัก
> ใช้มือเอื้อมมาเปิดตัวล็อคประตู
> บางคนคิดว่ากระจกบานนี้น่าจะแข็งแรงแต่ถ้าคุณลองงัดดู จะต้องเปลี่ยนใจว่า
> มันไม่ยากอย่างที่คิด
>
>
> 5.ใช้น้ำกรด
> โจรจะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้นใส่เข็มฉีดยา หยดไปตามรูกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง
> และสปริงเล็กๆในแม่กุญแจ แบบนี้ยังนำมาใช้ภายในรถพวกล็อคพวงมาลัย ล็อคเกียร
> และล็อคครัชได้อีกด้วย
>
>
> 6. ทุบกระจกประตูหรือกระจกหูช้าง
> โจรจะใช้เหล็กแหลมคม ค่อยๆกะเทาะกระจกจนเกิดรอยร้าว ใช้ผ้าปิดป้องกันเสียง
> จนกระจกแตกออกทั้งบาน ใช้มือล้วงเปิดตัวล็อคกุญแจออก
> คราวนี้ก็ถือเป็นการง่ายแล้วถ้าจะเข้าไปในรถของท่าน
>
>
> 7. ช็อตวงจรไฟฟ้า
> บางท่านคิดว่าใช้กุญแจรีโมตแล้วปลอดภัยแน่
> แต่จริงๆแล้วกลับง่ายต่อการต่อรัดวงจรไฟฟ้า เช่นวงจรไฟเลี้ยว
> ในชุดรีโมตแบบธรรมดา หรือถ้าเป็นรถยุโรปด้วยแล้วกลับเป็นเรื่องง่าย
> ตัวล็อคจะเด้งหลุดทันที
>
>
>
> 8. จูนสัญญาณจากรีโมต
> เวลาจอดรถในห้างสรรพสินค้าพอเรากดรีโมตล็อคปุ๊ป
> คนร้ายก็จะมีเครื่องมือมาจับความถี่สัญญาณ
> แล้วหาก็อปปี้ความถี่มาใช้ยิงเปิดประตูได้เลย
> แบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่อันตรายมาก
>
> 9. ยกรถ
> บางครั้งแล้วคนร้ายอาจใช้วิธีเอารถยกมายกไปเลย แบบนี้อย่าคิดว่าขำครับ
> เป็นวิธีที่โจรบางพวกนิยมใช้กัน เมื่อยกรถแล้วจะหาทางเข้าที่เปลี่ยวๆ
> แล้วปลดล็อคต่างๆกันต่อไป
>
> 10. จี้หรือปล้น
> อย่างที่เคยได้ยินกันตามหน้าหนังสือพิมพ์นี่หละครับ เช่นการวางเรือใบ
> ดักซุ่มในที่เปลี่ยว ล่อลวงต่างๆ
> แต่ที่เห็นเป็นประเด็นร้อนอย่างการลวงซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต
> แล้วขอนัดดูในที่เปลี่ยว แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้มาขอซื้อรถหรอกครับ
> แต่อาจจะขอไปใช้กันฟรีๆเลยก็ได้
>
>
> เมื่อเข้ารถได้แล้วโจรมักจะทำอย่างไร
> 1. งัดคอพวงมาลัย เพื่อเป็นการปลดล็อคระบบบังคับเลี้ยว
> โจรจะถอดคอพวงมาลัยแล้วใช้อุปกรณ์งัดหูล็อคคอกุญแจหรือตัดกุญแจล็อคคอที่เป็นตะกั่วให้หลุดออกจากแกนพวงมาลัย
> แค่นี้ระบบล็อคคอก็จะหลุดออกอย่างรวดเร็ว
>
> 2. ใช้เลื่อยตัด ถ้าเรามีกุญแจล็อคคันเกียร หรือล็อคพวงมาลัย
> อย่าพึ่งหลงคิดว่าโจรจะใช้เวลามากเพราะล็อคเกียร หรือล็อคพวงมาลัยราคาถูก
> ก็เปรียบเสมือนเครื่องประดับรถสำหรับโจรแค่นั้นเอง
> อย่างในรูปล็อคเกียรนั้นจับเวลาในการตัดได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น
>
> 3.
>
>
>
> ______________
> Pirak Loungsompitak
> Regional Manager - Risk Management (Northeastern)
> Capital Ok Co. Ltd.
> 230/8-9 Mittraphap-Nongkhai Road
> Tambon Nai Mueng, Amper Mueng
> Nakhonratchasima 30000
> Mobile phone No. 081-657-6165
> Office Phone No. 044-272-590 Ext. 2558
> Fax No. 044-295-450 Internal No. 2559
>
>
>
>
> From: piyawat sadarananda [mailto:
sadar...@yahoo.com]
> Sent: Thursday, September 25, 2008 8:03 AM
> To: บี พักตร์; เหมียว ชัย; กวิน; คุณคำภู; เน็ท; หนิง; หนิง; ติ่งต้น; พี่เดช;
> จ้อ; pirak loungsompitak; ป๊อก; ปุ๊ย หญิง; พี่แต; ยิ้ม; อาจารย์ไพโรจน์;
> ต๊อบ; พี่เอื้อ; หมี กุ้ง; จี๋; น้อยหน่า; วริทธ์; เฮียวี; อาร์ท; อุ้ม; อ้อ;
> โอ; นุ้ย
> Subject: FW: แฉเบื้องหลังการโจรกรรมรถยนต์
>
>
>
>
>
>
>
> --- On Thu, 9/25/08, Piyawat Sadarananda <
sadar...@hotmail.com> wrote:
> From: Piyawat Sadarananda <
sadar...@hotmail.com>
> Subject: FW:
> ������������������������������������������������������������������������������������
> To: "เต้ย" <
sadar...@yahoo.com>
> Date: Thursday, September 25, 2008, 7:44 AM
>
>
>
>
>
> 1 กุญแจปลอม
> ถ้าคนร้ายมีกุญแจเหมือนกับเรา ก็เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของรถนั่นเอง
> วิธีการที่ผู้ร้ายจะได้กุญแจปลอมนั้นได้แก่
> การแอบปั้มกุญแจเช่นเวลาที่เรานำรถไปจอดซ่อม ล้างอัดฉีด ซื้อรถจากโชว์รูม
> เต็นท์ขายรถมือสอง จากเจ้าของเก่าที่ไว้ใจไม่ได้
> หรือที่นิยมสมัยนี้คือการติดต่อซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต
> แล้วแอบมาปั้มลูกกุญแจเวลาเจ้าของเผลอ ซึ่งคนร้ายจะติดตามมาถึงบ้าน
> และที่จอดรถประจำเพื่อโขมย
>
>
>
> 2 เหล็กแข็งแทนกุญแจ
> คนร้ายจะใช้เหล็กขนาดเท่ากุญแจรถแต่เป็นเหล็กแข็ง
> ส่วนมากจะดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยมมุมฉากสแตนเลสที่มีความแข็ง
> ตีเข้าที่รูกุญแจแล้วใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย และหมุนจนตัวล็อคเปิดออก
> เป็นอีกวิธี หนึ่ง ที่คนร้ายชอบใช้กัน
>
>
>
> 3 ใช้ลวดแข็งเกี่ยวตัวล็อคประตู
> ถ้าใครเคยลืมกุญแจไว้ในรถแล้วเรียกช่างมาปลดล็อคกุญแจจะเคยเห็นว่า
> ช่างจะใช้ลวดเชื่อมยาวๆเบอร์แข็งๆ ดัดทำเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำประตูออก
> และใช้ลวดแยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อคให้เด้งขึ้น
> เสมือนมีคนอยู่ในรถแล้วดึงปุ่มเปิดประตูขึ้น
> หรือใช้ฟุตเหล็กแยงให้ตรงกับคันชักกลอนประตูให้เด้งลง
> หรือใช้ลดแยงทางมือเปิดประตูเพื่อมาดันตัวกดล็อกให้เด้งขึ้น
> วิธีนี้ถ้าช่างที่มีความชำนาญจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
>
>
>
>
>
> 4 งัดประตูหูช้าง
> พวกรถกระบะแค็บที่มีประตูหูช้าง โจรจะใช้ลวดแข็งมากๆงอเป็นตัวยู
> สอดเข้าไประหว่างกระจกแค็ปแล้วงัดแรงๆ กระจกจะเปิดออก แล้วจะงัดตัวล็อคให้หัก
> ใช้มือเอื้อมมาเปิดตัวล็อคประตู
> บางคนคิดว่ากระจกบานนี้น่าจะแข็งแรงแต่ถ้าคุณลองงัดดู จะต้องเปลี่ยนใจว่า
> มันไม่ยากอย่างที่คิด
>
>
> 5.ใช้น้ำกรด
> โจรจะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้นใส่เข็มฉีดยา หยดไปตามรูกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง
> และสปริงเล็กๆในแม่กุญแจ แบบนี้ยังนำมาใช้ภายในรถพวกล็อคพวงมาลัย ล็อคเกียร
> และล็อคครัชได้อีกด้วย
>
>
> 6. ทุบกระจกประตูหรือกระจกหูช้าง
> โจรจะใช้เหล็กแหลมคม ค่อยๆกะเทาะกระจกจนเกิดรอยร้าว ใช้ผ้าปิดป้องกันเสียง
> จนกระจกแตกออกทั้งบาน ใช้มือล้วงเปิดตัวล็อคกุญแจออก
> คราวนี้ก็ถือเป็นการง่ายแล้วถ้าจะเข้าไปในรถของท่าน
>
>
> 7. ช็อตวงจรไฟฟ้า
> บางท่านคิดว่าใช้กุญแจรีโมตแล้วปลอดภัยแน่
> แต่จริงๆแล้วกลับง่ายต่อการต่อรัดวงจรไฟฟ้า เช่นวงจรไฟเลี้ยว
> ในชุดรีโมตแบบธรรมดา หรือถ้าเป็นรถยุโรปด้วยแล้วกลับเป็นเรื่องง่าย
> ตัวล็อคจะเด้งหลุดทันที
>
>
>
> 8. จูนสัญญาณจากรีโมต
> เวลาจอดรถในห้างสรรพสินค้าพอเรากดรีโมตล็อคปุ๊ป
> คนร้ายก็จะมีเครื่องมือมาจับความถี่สัญญาณ
> แล้วหาก็อปปี้ความถี่มาใช้ยิงเปิดประตูได้เลย
> แบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่อันตรายมาก
>
> 9. ยกรถ
> บางครั้งแล้วคนร้ายอาจใช้วิธีเอารถยกมายกไปเลย แบบนี้อย่าคิดว่าขำครับ
> เป็นวิธีที่โจรบางพวกนิยมใช้กัน เมื่อยกรถแล้วจะหาทางเข้าที่เปลี่ยวๆ
> แล้วปลดล็อคต่างๆกันต่อไป
>
> 10. จี้หรือปล้น
> อย่างที่เคยได้ยินกันตามหน้าหนังสือพิมพ์นี่หละครับ เช่นการวางเรือใบ
> ดักซุ่มในที่เปลี่ยว ล่อลวงต่างๆ
> แต่ที่เห็นเป็นประเด็นร้อนอย่างการลวงซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต
> แล้วขอนัดดูในที่เปลี่ยว แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้มาขอซื้อรถหรอกครับ
> แต่อาจจะขอไปใช้กันฟรีๆเลยก็ได้
>
>
> เมื่อเข้ารถได้แล้วโจรมักจะทำอย่างไร
> 1. งัดคอพวงมาลัย เพื่อเป็นการปลดล็อคระบบบังคับเลี้ยว
> โจรจะถอดคอพวงมาลัยแล้วใช้อุปกรณ์งัดหูล็อคคอกุญแจหรือตัดกุญแจล็อคคอที่เป็นตะกั่วให้หลุดออกจากแกนพวงมาลัย
> แค่นี้ระบบล็อคคอก็จะหลุดออกอย่างรวดเร็ว
>
> 2. ใช้เลื่อยตัด ถ้าเรามีกุญแจล็อคคันเกียร หรือล็อคพวงมาลัย
> อย่าพึ่งหลงคิดว่าโจรจะใช้เวลามากเพราะล็อคเกียร หรือล็อคพวงมาลัยราคาถูก
> ก็เปรียบเสมือนเครื่องประดับรถสำหรับโจรแค่นั้นเอง
> อย่างในรูปล็อคเกียรนั้นจับเวลาในการตัดได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น
>
> 3.
> _________________________________________________________________
> ลากแล้วปล่อย—แบ่งปันรูปถ่ายกันอย่างง่ายดายด้วย Windows Live™ Photos
>
http://www.microsoft.com/windows/windowslive/products/photos.aspx> >
>