ความรัก
เกิดจากการเกื้อกูลกัน
อาจเคยเกื้อกูลกันมาในกาลก่อน เรียกว่า บุเพสันนิวาส
หรืออาจมาเกื้อกูลกันในปัจจุบัน
มีผู้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าเรื่องความรักของหญิงชายว่า
“ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ
เหตุไรหนอ
บุคคลบางคนในโลกนี้พอเห็นกันเข้าก็เฉยๆ หัวใจก็เฉย
แต่บางคนพอเห็นกันเข้าจิตกลับเลื่อมใส”
พระพุทธองค์จึงทรงแสดงเหตุที่ทำให้หญิงชายรู้สึกรักกันว่า
“ความรักนั้น
ย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ ด้วยการอยู่ร่วมกันในกาลก่อน ๑
ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑
เหมือนดอกอุบลและชลชาติ
เมื่อเกิดในน้ำ ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุ ๒ ประการ คือ น้ำและเปือกตม ฉันนั้น”
ความรักของหญิงชายจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีปัจจัย
๒ ประการดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุให้รู้ คือ
๑.
การได้เคยอยู่ร่วมกันมาในกาลก่อน คือ เคยเป็นบิดามารดา บุตรธิดา พี่ชายน้องชาย
พี่สาวน้องสาว สามีภรรยา หรือเคยเป็นมิตรสหายกัน เคยอยู่ร่วมเคียงกันมา
มีความรักความผูกพันต่อกันมาก่อน ความรักความผูกพันนั้นย่อมไม่ละ
คงติดตามไปแม้ในภพอื่น
๒. ความเกื้อกูลในปัจจุบัน คือ การช่วยเหลือกัน
การเกื้อหนุนกัน การเป็นกำลังใจให้กัน
เหมือนน้ำและเปือกตมที่เกื้อกูลให้เกิดดอกบัวและไม้น้ำต่างๆ
ความรักย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการนี้
ถ้าความรักเกิดจากการเกื้อกูลกัน
แล้วเหตุใดบางคนจึงไม่มีรัก
นั่นเป็นเพราะบางคนเกิดมาแล้วคู่ที่เกื้อกูลกันมาของตนอยู่ในภพอื่น
แล้วไม่เปิดใจเกื้อกูลกับคนใหม่
หรือเกิดมาแล้วคู่ของตนไปเกื้อกูลกับคนอื่นเสียก่อนที่จะได้มาพบกัน
แล้วเหตุใดคู่รักบางคู่จึงเปลี่ยนจากรักเป็นชัง
จากหวังดีเป็นทำร้ายกัน
เหตุเพราะทั้งคู่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีใจอาฆาต หรือทั้งสองฝ่ายต่างอาฆาตกัน
กฏแห่งกรรมจึงชักนำทั้งสองให้มาอยู่ร่วมกันเพื่อแก้แค้นกันเองตามแรงอาฆาตนั้นโดยไม่ไปกระทบคนอื่น
ด้วยเหตุนี้
หากโกรธใคร
เกลียดใคร ชังใคร ให้วางใจเฉยๆ อย่าอาฆาต อย่าจองเวร
เพราะแรงอาฆาตนั้นอาจส่งผลให้เป็นคู่ครองคู่ฟาดฟันกันในชาติต่อไป
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
๒๕๕๖
................................
ศิริวรรตน์
สุวรรณฉวี
บ. สยามแท็ปโก้ จก.
มือถือ
082-6246962,
085-6164446