Proper conduct to systems is required, Page 543. ☺
“ปัญจขันธ์ ที่จัดว่าเป็นปรมัตถ์ โดยแรก เริ่มเรื่อง มันเป็นเรื่องพรหม เพราะแจ้ง โดยศัพท์ อยู่แล้วว่า น ภัสระ และ น ภัทระ, ภัสระ จัดเป็นพรหม ซึ่งก็จัดเป็นที่ ที่พระพุทธเจ้าไม่อุบัติก็ได้ โดยอีกนัยหนึ่ง ถ้าหมายความว่า พรหมนั้นเป็นที่ตั้งของการได้บรรลุสัจธรรม, ฉะนั้น หาก จะ ส่องหา ว่า บัญจขันธ์ ที่เป็นปรมัตถ์ คืออะไร?, เพราะหาที่ตั้ง คือ ทิฐิ ว่าทิศที่ไม่รกชัฏ คือทิศอะไร ทิศที่มีนิพพาน คือทิศอะไร?, ในกัปที่พระพุทธเจ้า ทั้ง ๕ พระองค์ มาบรรลุซึ่งโอกาส นั้น
ฉะนั้น ถ้าจะตอบให้ถูก ก็น่าที่จะตอบว่า ทิฐิคือรูป พึงเป็นคำตอบที่ถูก เพราะในมหาวาระ หรือวาระคือกัป ฉะนั้น มีรูป โดยความเป็น ภัทระ, โดยแต่ จะแสดงนัยแห่งการนิพพาน ใคร่ว่า อาภัทระ หรืออาภัสระ ก็ควรจะยังยกไว้อีกเรื่องหนึ่ง ก่อน, แต่ทิฐิ ที่ว่าทิฐิรูป จึงเป็นคำตอบที่ถูก, คือถูกกับ คำสอนในชุดต่อมา ที่บอกว่า ‘เสียงออกมาจากที่ชุ่ม รูปออกมาจากที่แห้ง’ ฉะนั้น รูป จึงเป็นทิศที่ไม่รกชัฏ ในกรณี ที่พึงสืบสนธิว่า พึงศึกษารูป เป็นต้น หรือพึงศึกษาเสียง เป็นต้น
ต่อด้วยเรื่อง ทิฐิ หรือทิศที่มีนิพพาน มันก็ต้องเรื่องใบไม้ในมือ หรือแผนที่ นั่นเอง ที่โอกาส ให้มัก เพ่งเล็งกันไปที่ ใบเกิด หรือใบตาย อันที่จะคือ นิพพาน คือได้แถลงแสดง ทิฐิ คือทิศที่มีนิพพาน ซึ่ง คำสอน ท่านไม่แสดงเลยว่า ใบงาน หรือใบวุฒิบัตรการศึกษา คือใบไม้ในมือ ฉะนั้น ทิศที่มีนิพพาน หรือทิฐิที่มีนิพพาน จึงยังคงเป็นที่กังขากันอยู่ทั้งหมดนั่นเอง ว่าพระพุทธเจ้า หมายถึงใบเกิดหรือใบตายกันแน่ สำหรับความสำเร็จพึงได้, ที่จริงนั้น หมายถึงการจุติ หรืออุบัติ”
Sadhu.
Pali Ariyakaーscript :
Thanissaro