ปลาในตระกูลปลาเนื้ออ่อนในประเทศไทยมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ ปลาแดง, ปลาชะโอน, ปลาน้ำเงินและปลาเบี้ยว เป็นต้น โดยเฉพาะปลาเบี้ยวหายากที่สุด สำหรับ ปลาน้ำเงินเป็นปลาน้ำจืดอีกชนิดหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าอาจจะสูญพันธุ์ได้ใน อนาคต เนื่องจากมีการบริโภคกันมากและปัจจุบันปลาน้ำเงินที่มีวางขายในท้องตลาดจะ เป็นปลาที่จับได้จากธรรมชาติเท่านั้น ไม่ได้มาจากการเพาะเลี้ยง จัดเป็นปลาน้ำจืดหายาก ที่มีราคาค่อนข้างแพงมีการซื้อ-ขายในท้องตลาดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 170-250 บาท และเป็นปลาที่นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด เนื้อมีความนุ่มและอร่อยมาก ยิ่งไปกว่านั้นจากการสำรวจของกรมประมงยังได้ข้อมูลว่าแหล่งวางไข่และแหล่ง ตัวอ่อนของปลาน้ำเงินในธรรมชาติลดลงอย่างน่าใจหาย มีเรื่องที่น่ายินดีที่ขณะนี้ทางสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดชัยนาท ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ด้วยวิธีการผสมเทียม ที่ สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดชัยนาท เป็นหน่วยงานที่มีพ่อ-แม่พันธุ์ปลาน้ำเงินมากที่สุดเฉลี่ย 4,000-5,000 ตัว โดยเริ่มสะสมพันธุ์ปลาน้ำเงินจากแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 เป็นต้นมาและได้นำมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์เพื่อใช้เป็นพ่อ-แม่พันธุ์เพื่อ เตรียมไว้ทดลองเพาะพันธุ์แบบผสมเทียมเมื่อ พ่อ-แม่พันธุ์มีอายุได้ประมาณ 3 ปี จึงได้นำมาใช้เพาะพันธุ์ (ปกติแล้วปลาน้ำเงินมีอายุ 2 ปี จะมีน้ำหนักตัวประมาณ 500 กรัม ใช้เป็นพ่อ-แม่พันธุ์ได้แล้ว) ในการผสมเทียมปลาน้ำเงินนั้นเหมือนกับการผสมเทียมปลาน้ำจืดทั่วไปคือใช้ ฮอร์โมนซูพรีแฟกท์ (Suprefact) ร่วมกับ โมทีเลียม (Motilium) โดยแบ่งฉีดฮอร์โมนให้แม่ปลาเป็น 2 เข็ม, เข็มที่ 1 ใช้ซูพรีแฟกท์ 30 ไมโครกรัม/ กิโลกรัมและโมทีเลียม 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, เข็มที่ 2 ใช้ซูพรีแฟกท์ 60 ไมโครกรัม/ กิโลกรัมและโมทีเลียม 10 มิลลิกรัม/ กิโลกรัม โดยฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อบริเวณเหนือเส้นข้างตัว ระยะเวลาห่างจากการฉีดเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 เป็นเวลา 6 ชั่วโมง เวลาที่เหมาะต่อการผสมเทียมมากที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือน กันยายน ข้อควรระวังที่สำคัญอย่างหนึ่งของการเลี้ยงปลาน้ำเงินในเชิงพาณิชย์ในอนาคต คือยังไม่แนะนำให้เลี้ยงปลาชนิดนี้ในบ่อดินเนื่องจากสภาพน้ำค่อนข้างสกปรก และน้ำไม่ไหล คุณภาพของน้ำไม่ดี มีปริมาณของออกซิเจนต่ำเมื่อน้ำเสียปลาก็จะตายหมด ดังนั้นการเลี้ยง ปลาน้ำเงินควรจะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์หรือบ่อพลาสติกที่ใช้ระบบน้ำหมุนเวียน บ่อขนาด 50 ตารางเมตร จะเลี้ยงพ่อ-แม่พันธุ์ได้ประมาณ 1,000 ตัว อาหารที่ใช้เลี้ยงคือปลาเป็ด พ่อ- แม่พันธุ์ปลาจำนวน 5,000 ตัวจะกินปลาเป็ดวันละ 40 กิโลกรัม พบว่าปลาเจริญเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ในขณะที่มีการทดลองเลี้ยงปลาน้ำเงินในเชิงพาณิชย์โดยทดลองเลี้ยงในบ่อ พลาสติกที่มีความจุขนาด 2,000 ลิตร เลี้ยงปลาน้ำเงิน จำนวน 100 ตัวต่อบ่อ อาหารที่ใช้เลี้ยงประยุกต์มาใช้อาหารเม็ดปลาดุกเล็กผสมกับปลาเป็ดในอัตรา ส่วนครึ่งต่อครึ่ง เลี้ยงไปนาน 6 เดือน ได้น้ำหนักปลาประมาณ 200 กรัมต่อตัว น้ำที่ใช้เลี้ยงจะมีการถ่ายเทเป็นประจำและจะทำการขัดบ่ออาทิตย์ละ 1 ครั้ง มีความเป็นไปได้ที่จะเลี้ยงปลาน้ำเงินในเชิงพาณิชย์แต่ควรเลี้ยงในบ่อ ซีเมนต์หรือบ่อพลาสติก น้ำที่ใช้เลี้ยงจะต้องมีความสะอาดและใช้ระบบหมุนเวียน. ที่มา:หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ************************************************************ อ่านเรื่องราวของปลาสวยงาม หรือ สัตว์เลี้ยงต่างๆ รวมถึงเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่จ้า http://myaqualove.blogspot.com |