Phuket Island
unread,Apr 30, 2014, 5:36:15 AM4/30/14Sign in to reply to author
Sign in to forward
You do not have permission to delete messages in this group
Either email addresses are anonymous for this group or you need the view member email addresses permission to view the original message
to bhu...@gmail.com
เตือนภัย !! หากคุณยังใช้ Windows XP อยู่, รีบอัพเกรดด่วน !
คนที่ติดตามข่าวไอทีหลายคนน่าจะรู้กันดีครับ ว่าระบบปฏิบัติการ Windows XP ได้หมดระยะเวลาสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ หรือพูดง่ายๆ ว่า “หมดอายุ” ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2014 นี้ และหมายความว่าตอนนี้ใครที่ยังใช้ Windows XP อยู่ จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากเหล่าไวรัสและผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีผู้ใช้ตามบ้านหลายคนที่ยังใช้ Windows XP อยู่และไม่ทราบถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น วันนี้ผมจะมาสรุปและเตือนถึงประเด็นดังกล่าวกันอีกครั้งครับ…
Windows XP ระบบปฏิบัติการเก่าแก่อายุ 13 ปี
ท้าวความก่อนว่า Windows XP เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2001 จนถึงวันนี้ก็มีอายุร่วมๆ 13 ปี ซึ่งนับว่าเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นหนึ่งที่มีอายุยาวนานมาก เนื่องจาก Windows XP ออกมาในช่วงที่คอมพิวเตอร์กำลังบูม มีผู้ใช้เยอะมากจนไมโครซอฟท์ต้องขยายเวลาในการสนับสนุนออกมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงวันสุดท้ายที่ไมโครซอฟท์จะหยุดสนับสนุน Windows XP คือ วันที่ 8 เมษายน 2014
การหยุดสนับสนุนนั้นหมายความว่า ไมโครซอฟท์จะไม่มีการอัพเดทแพตช์หรือซอฟท์แวร์สำหรับอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยสำหรับ Windows XP ออกมาอีกในอนาคต
Wallpaper ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Windows XP (เป็นภาพที่ถ่ายจากสถานที่จริง)
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อ Windows XP หมดอายุ ?
ตามปกติแล้วเมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์จะทำการสร้างแพตช์ออกมาอุดช่องโหว่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าไวรัส, มัลแวร์ หรือแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่เหล่านั้นโจมตีผู้ใช้งานได้ ดังนั้นหากหลังวันที่ 8 เมษายน 2014 เกิดมีผู้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ของ Windows XP ขึ้นมา (ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูง) ใครที่ยังใช้ Windows XP อยู่ก็เตรียมรับชะตากรรมและตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดีได้เลย
ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นยกตัวอย่างเช่น
ติดไวรัสชนิดใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อโจมตี Windows XP โดยเฉพาะ ซึ่งต่อไปไมโครซอฟท์จะไม่ช่วยอุดช่องโหว่ให้อีกแล้ว
ความเสียหายจากไวรัส เช่น ระบบล่ม, เครื่องบูตไม่ขึ้น, ข้อมูลสูญหาย หรือเครื่องทำงานช้าลง เป็นต้น
โปรแกรมใหม่ๆ ไม่รองรับการทำงานร่วมกับ Windows XP ทำให้เราเสียโอกาสและประสิทธิภาพในการทำงาน
ภัยต่างๆ ที่จะมาจากโปรแกรม 3rd party หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่หยุดสนับสนุน Windows XP ไปแล้ว เช่น ปลั๊กอิน Java, Adobe Reader, Flash Player เป็นต้น
โดนขโมยข้อมูลสำคัญ เมื่อใช้บริการผ่านเว็บไซต์ เช่น บัญชีอีเมล, ข้อมูลธนาคารและบัตรเครดิต เป็นต้น
โดยทางไมโครซอฟท์ได้มีการสำรวจออกมาครับว่า Windows XP มีความเสี่ยงที่จะติดไวรัสมากกว่า Windows 7 สองเท่า และมากกว่า Windows 8 เกือบหกเท่าเลยทีเดียว
นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่เคยรองรับ Windows XP หลายตัวก็จะทยอยหยุดการให้สนับสนุนไปพร้อมๆ กับการหมดอายุของ Windows XP เช่น Office 2003 และโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอย่าง Microsoft Security Essentials อีกด้วย
ยังใช้ Windows XP อยู่ ควรทำอย่างไร ?
จากที่ผมได้กล่าวไปในข้างต้น จะเห็นว่าหากเรายังคงใช้ Windows XP ต่อไป ก็จะหนีไม่พ้นและต้องตกอยู่ในความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นผมจึงจะขอแนะนำแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปได้สำหรับใครที่ยังใช้ Windows XP อยู่จะได้รีบปรับตัวกันครับ
อัพเกรดไปใช้ระบบปฏิบัติการที่ใหม่กว่า
หนทางที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ยังใช้ Windows XP อยู่ คือ อัพเกรดไปใช้ระบบปฏิบัติการที่ใหม่กว่าอย่าง Windows 7 หรือ Windows 8 ครับ ซึ่งปัจบัน Windows ทั้งสองเวอร์ชั่นนี้จะหมดอายุในปี 2020 และ 2023 ตามลำดับ หรืออย่างต่ำก็อีก 5-6 ปีเลยทีเดียวครับ
สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าพีซีเครื่องเก่าจะอัพเกรดไปใช้ Windows 7 หรือ Windows 8 ได้หรือเปล่าผมก็ไปหาข้อมูลมาให้ครับ โดยสเป็คขั้นต่ำที่รองรับก็มีดังนี้ครับ
ซีพียูความเร็ว 1 GHz
แรม 1 GB
พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ 16 GB
แต่ถ้าหากคอมฯเครื่องเดิมมีสเปคไม่เพียงพอที่จะอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่ ก็คงต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่แบบยกชุด ซึ่งปัจจุบันเมื่อเราซื้อพีซีเครื่องใหม่ก็มักจะแถมระบบปฏิบัติการที่ใหม่ กว่ามาให้อยู่แล้ว
ยืนยันที่จะใช้ Windows XP ต่อไป
หากเรายังยืนยันที่จะใช้ Windows XP ต่อไปด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงในอนาคตแบบเต็มๆ และต้องควบคุมพฤติกรรมการใช้งานต่างๆ ไม่ให้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น
อัพเกรด Windows XP ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด (Service Pack 3) หรือเวอร์ชั่นสุดท้ายก่อนที่จะหมดอายุ
หยุดใช้ Internet Explorer บน Windows XP เปลี่ยนไปใช้เบราเซอร์อื่นที่อัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
หลีกเลี่ยงการใช้งาน Flash drive เพื่อป้องการการติดไวรัสชนิดใหม่ๆ ผ่าน port USB
หยุดใช้งานปลั๊กอินอันตราย เช่น Java, Adobe Reader, Flash Player ซึ่งเป็นปลั๊กอินที่เหล่าแฮกเกอร์พุ่งเป้าโจมตีมากที่สุด
ไม่ล็อกอินเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ที่มีข้อมูลสำคัญ (อีเมล, ธนาคาร, บัตรเครดิต เป็นต้น)
หากเป็นคอมพิวเตอร์ในองค์กร ไม่ควรนำพีซีที่ใช้ Windows XP ไปใช้งานร่วมกับระบบเครือข่าย เพื่อไม่ให้ตกเป็นจุดอ่อนของระบบโดยรวม
จะเห็นว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน Windows XP ให้ปลอดภัยหลังวันหมดอายุ ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานพีซีของเราลดลง แถมยังไม่มีการรับประกับอีกด้วยครับว่าจะปลอดภัยครอบคลุม 100% หรือไม่ ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดก็คือ ต้องอัพเกรดไปยังระบบปฏิบัติการที่ใหม่กว่าอยู่ดีหล่ะครับ เพราะในอนาคตซอฟตแวร์หรือเว็บไซต์ใหม่ๆ ก็จะไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Windows XP อย่างแน่นอน
สรุป
Windows XP หมดอายุไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2014 การใช้งาน Windows XP ต่อไปหลังวันหมดอายุ จะทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงต่างๆ จากผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือ ถ้าพีซีเครื่องเดิมยังรองรับก็ต้องเปลี่ยนไปใช้งานระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า แต่ถ้าพีซีเครื่องเดิมไปต่อไม่ไหวแล้ว เห็นทีควรที่จะต้องมีการ “ลุงทุน” เพื่ออัพเกรด/เปลี่ยนพีซีเครื่องใหม่ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความสูญเสียต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
Sent from my iPad