สรุปคำบรรยาย เนติภาคค่ำ ละเมิด สัปดาห์ที่ 2 ชั่วโมงที่ 1-2 ศ 05/06/09

450 views
Skip to first unread message

nobita kwang

unread,
Jun 9, 2009, 12:02:19 AM6/9/09
to LAWSIAM, STDศูนย์รวบรวมและสรรสร้างข้อมูลกฎหมาย -, aaaaคุณกองเชียร์ ไทยจัสติส, pingpong na-khonwan

หากเอกสารสรุปคำบรรยายนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้า  kankokub  ขออภัยและน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว หากจะมีประโยชน์อยู่บ้างขอมอบให้แก่ ท่านอาจารย์วิชัย อริยะนันทกะ ผู้บรรยาย   ,  ผู้มีน้ำใจส่ง flie เสียงที่ทำให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ฟังคำบรรยาย , บิดามารดาข้าพเจ้า

ครั้งที่ 1 . (เกริ่นนำ)

                ก็ดูละเมิด สองชั่วโมงโดยสองชั่วโมงนี้ผมจะให้เห็นขอบเขตของกฏหมายนอกจากจะในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วยังมี พรบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ และปี 51 ยังมีความรับผิดในสินค้าไม่ปลอดภัย ของเราก็เรียกว่าพรบความรับผิดจากสินค้าไม่ปลอดภัยก็มากระทบเรื่องละเมิดหลายๆเรื่อง ถ้าเราศึกษาเทียบกับ ปพพ ก็เป็นการดี

            อีกเรื่องหนึ่งคือพรบ พิจารณาคดีผู้บริโภค 2551

            ก่อนอื่นขอพูดเรื่อง ละเมิด ในปพพ ซึ่งสำคัญที่สุด การฟ้องคดีเราต้องบังคับได้ การฟ้องคดีต้องดูด้วยว่าฟ้องใคร จำเลยที่เราฟ้องต้องมีสถานะทางการเงินที่จะรับผิด ชดใช้เราได้ เราก็มักคิดถึงค่าสินไหมทดแทน จะพึ่งใช้สถานใดต้องพิเคราะห์ถึงความร้ายแรงแห่งละเมิด ชีวิต ร่างกาย อนามัย อายุความเป็นอย่างไร

            การเรียกค่าเสียหาย ปพพ หรือ เจ้าหน้าที่ เราก็ต้องดูในหลักนายจ้างลูกจ้าง แต่ถ้าเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ ถ้าไปฟ้องเจ้าหน้าที่ก็ต้องยกฟ้อง แต่หลังจากหน่วยงานของรัฐจ่ายไปแล้วจะไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ของรัฐได้หรือไม่ก็ต้องดูว่า ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่

            จุดแรกที่ต้องดูคือโรงพยาบาลนั้นเป็น ของรัฐหรือเอกชน

            แต่ก็มีหลายๆโรงพยาบาลที่ปฏิเสธความรับผิดว่าไม่ใช่ลูกจ้างแต่ได้มาเช่าโรงพยาบาล ก็มีวิธีการเสมือน คือ ฟ้องในเรื่องตัวการตัวแทน

            บุคคลก็ต้องเชื่อโดยสุจริตใจว่าแพทย์ย่อมเป็นตัวแทนของโรงพยาบาล ไม่ว่าเป็นนายจ้างลูกจ้างหรือไม่ ก็ฟ้องในเรื่องตัวการตัวแทน แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐต้องเอาอีกฉบับมาปรับเลย คือเอาพรบ ความละเมิดทางละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐ จะมาฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้ อันนี้เป็นกฎหมายที่ปกป้องบุคคลของรัฐ แล้วรัฐก็มาชดใช้ค่าเสียหายให้ เป็นกฎหมายเริ่มปี 39

            บทบัญญัติที่ยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเพื่อละเมิด บางครั้งมีการทำสัญญาหรือ แก้ไข สระว่ายน้ำ สปอร์ตคลับ มีข้อสัญญาว่าจำกัดความรับผิด

            สถานประกอบการพยาบาลมีข้อยกเว้น ว่า ไม่รับผิดในกรณี เลือดปนเปื้อน หรือประมาทเลินเล่อ ไตผิดข้าง ข้อยกเว้นเหล่านี้ ต่อร่างกาย อนามัย เป็นโมฆะเลย อันนี้ก็เป็นการลบล้างคำพิพากษาเก่าๆหมดเลย

            แต่ถ้าเป็นในส่วนทรัพย์สิน นั้นก็ต้องไปดูเป็นกรณีๆไป หลักการคือให้ศาลก้าวล่วงมาตรวจสอบสัญญาว่าเป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีหรือไม่

            อีกมาตราหนึ่งคือ คำพิพากษาฏีกาของไทยหลายเรื่องได้ใช้กฎหมาย คอมมอนลอว์ ที่ว่าความยินยอมไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย โดยมีฏีกาเรื่องหนึ่งคือ มีการให้เช่าพระเครื่องแล้วให้คำมั่นว่าวัตถุมงคลนี้บูชาแล้ว ก็ฟันแทงไม่เข้า ทั้งผู้ตายและจำเลยก็มีการทดสอบหรือที่เรียกว่าลองของ ในทางอาญาแน่นอนว่าไม่ยกเว้น แต่ในทางแพ่งโดยเรื่องละเมิดนั้น ก็ออกไปในเรื่องไม่มีอำนาจฟ้องเพราะว่ายอมตนเข้าไปในผลแห่งภัยนั้นเอง

            พรบ สัญญาไม่เป็นธรรมนั้นเห็นว่า ในเรื่องของชีวิตร่างกายนั้น ปี39 40 ก็เป็นขอบข่ายในเรื่องการศึกษา ละเมิด

            ปี51 ก็มีเรื่องสินค้าที่ไม่ปลอดภัย เวลาที่เราพูดถึงจงใจ ต้องแยกกับเจตนาในองค์ประกอบจิตใจในอาญาคือทำโดยรู้สำนึกในขณะเดียวกันก็ประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผล

            จงใจเรามองเห็นการรู้หรือควรจะรู้ ส่วนประมาทเลิ่นเล่อ ในคดีอาญา เราก็มองว่ากระทำโดยไม่ระมัดระวัง กฎหมายสมมุติคนหนึ่งที่เรียกว่าวิญญูชนมา ถ้าจำเลยกระทำต่ำกว่านั้นก็เป็นการประมาทเลินเล่อเกณฑ์เดียวกันก็นำมาใช้ในเรื่องประมาทเลินเล่อในคดีแพ่งได้ ในทางแพ่งโดยทั่วไปไม่ว่าจงใจหรือเจตนาก็เท่าเทียมกันในการรับผิด อาจจะต่างกันบ้างในการให้ค่าสินไหมทดแทน

            ในพรบความรับผิดจากสินค้าไม่ปลอดภัย 51 สร้างความรับผิดทางจิตใจใหม่ คือความรับผิดโดยเคร่งครัด ก็คือ อาจต้องรับผิดแม้ไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็มีการให้เข้ามารับผิดในกรณีเกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค ก็ไม่จำต้องพิสูจน์เรื่องจงใจหรือประมาทเลินเล่อเลย อีกเรื่องคือการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา คือผู้ละเมิดผู้ทำซ้ำงานอันมีลิขสิทธิ์ตรงนี้ก็เป็นความรับผิดโดยเคร่งครัด ต่างกับอาญาเพราะว่าหลักเจตนาหรือประมาทนั้นใช้ทุกมาตราของ ป.อ.

            นอกจากนั้นก็มีเพิ่มเข้ามาในเรื่องค่าเสียหาย ในทางละเมิดกับการผิดสัญญาต่างกันอย่างไร ปกติถ้าผิดสัญญาก็เยียวยาเสมือนหนึ่งได้มีการปฏิบัติตามสัญญา แต่ในกรณีละเมิดการเยียวยา เสมือนหนึ่งไม่มีการทำละเมิด เพราะฉะนั้นการเรียกค่าเสียหาย ผิดสัญญากับละเมิดจึงต่างกัน การร่างฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายก็จะต่างกัน เช่น จำเลยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพให้คำปรึกษา โดยประมาทเลินเล่อให้คำปรึกษาที่ผิดพลาดก่อให้เกิดความเสียหาย หากฟ้องผิดสัญญา คำแนะนำต้องเป็นคำแนะนำที่ถูกต้องผู้ต้องเสียหายจะมีสถานะอย่างไร ก็ไม่ได้กลับมาในสถาะไม่ได้รับคำแนะนำนะ สามารถเรียกกำไรได้

            ถ้าฟ้องในมูลละเมิดนั้นก็กลับคืนสู่สถานะเดิมเสมือนหนึ่ง ไม่มีการละเมิด คือ เสมือนหนึ่งยังไม่มีการทำสัญญา คือไม่ได้รับค่าขาดทุนเท่านั้นไม่อาจเรียกผลกำไร

            เหล่านี้เป็นทฤษฎี หรือหลักกฎหมายที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการฟ้องคดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่นักกฎหมายที่ได้รับผลตอบแทนเยอะก็ต้องมีประสิทธิภาพตอบแทนผู้จ้างสูงขึ้นตามไปด้วย

            ละเมิดจะกำไรไม่ได้ ละเมิดต่างจากอาญาด้วย เพราะว่าวัตถุประสงค์ของอาญาคือการลงโทษดูจากมาตรา 18 ป.อ. ค่าปรับไปสู่แผ่นดิน ส่วนค่าเสียหายไปสู่ผู้เสียหาย เรายังไม่มีแนวคิดค่าสินไหมทดแทนเชิงลงโทษ จนปัจจุบันนี้มีกฎหมายสามฉบับที่เปิดโอกาสให้เรียกได้ ฉบับแรก พรบความลับทางการค้า ปี 45 สามารถเรียกค่าเสียหายได้ สองเท่าที่พิสูจน์ได้ และปี 51 ก็พรบสินค้าที่ไม่ปลอดภัยก็เรียกได้สองเท่าที่พิสูจน์ได้จริง ตัวอย่างก็คือเหตุการณ์นมผงจีนที่ปนเปื้อนสารเมลานิน ก็มีผลบังคับ10 กพ 52 ก็ชอบธรรมอย่างยิ่งที่จะออกสอบได้

            ในพรบพิจารณาคุ้มครองผู้บริโภคศาลสามารถให้ค่าเสียหายได้ถึง 5 เท่า เป็นค่าเสียหายเชิงลงโทษ ความจริงนักกฎหมายรู้ภาษาอังกฤษ บ้างก็ดี เพราะในวิชาชีพก็สร้างรายได้อย่างดี หรือในการสอบผู้ช่วยฯก็มีข้อสอบแปล

            การกระทำที่เป็นละเมิดปกติแล้วเราดูหนังสือเพื่อการสอบนั้น ดูหนังสือสามชั่วโมงก็เพียงพอ หรือจะดูหนังสือทั้งปีอย่างปริญญาตรีก็ได้ หรือจะวิเคราะห์ต่ออย่างในชั้นปริญญาโทก็ได้

            มาตราแรกสำคัญที่สุด คนเรียนภาคค่ำอาจารย์ชื่นชม ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แต่คงไม่มีหน่วยงานไหน ที่ห้ามนำหนังสือไปอ่าน แต่คงไม่ห้ามมีประมวลวางไว้บนโต๊ะ แล้วการท่องตัวบทก็ไม่จำต้องใช้สมาธิมากนัก และการท่องก็จะเป็นธรรมชาติ เป็นเรื่องของจิตใต้สำนึก เป็นการแก้ คือไม่มีโรงเรียนกฎหมายไหนทำให้มาสอนวิธีการเขียนเรียงความทางกฎหมาย มีโวหารที่จูงใจ ก็คือการท่องตัวบทเพราะว่าสำนวนทางตัวบทเป็นสำนวนที่ดีที่สุด

            เหตุผลนั้นสำคัญกว่าธงคำตอบ ธงคำตอบก็คือพื้นฐานแห่งความถูกต้องเป็นธรรม ใช้จิตสำนึกตอบได้แต่สิ่งที่ทำให้ข้อสอบได้คะแนน แปดหรือเก้าก็คือเหตุผล ซึ่งเราก็ควรใช้ตัวบท

            ดูมาตรา 420

            อะไรเป็นการกระทำ อะไรเป็นการงดเว้นกระทำ และแม้ไม่ได้กระทำหรืองดเว้นกระทำก็ต้องรับผิด คนไม่รู้ผิดชอบเช่น ผู้เยาว์ หรือผู้วิกลจริต ทางแพ่งไม่ใช่เรื่องการลงโทษแต่เป็นการเยียวยา

            นายจ้าง ตัวการ หน่วยงานของรัฐก็ต้องรับผิดจากการกระทำของคนอื่น

            การสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล เราอาจอธิบายไปในลักษณะของความเสียหายระหว่างบุคคลกับเหตุเราต้องไปดูถึงความเสียหายของคนอื่น

            ในประมวลแพ่งมีใครบ้าง

425 นายจ้างลูกจ้าง 427 ตัวการตัวแทน เพราะว่าพิสูจน์ง่ายกว่านายจ้างลูกจ้างเช่นผู้ต้องเสียหาย อาจไม่หยั่งทราบความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับโรงพยาบาลได้ แต่ก็สามารถฟ้องอย่างตัวการตัวแทน

            อายุความ หนึ่งปี แต่การใช้สิทธิไล่เบี้ย ก็ทั่วไปสิบปี

            แต่พอสินค้าไม่ปลอดภัยก็ สามปี หรือสิบปี

            พรบความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ฏีกาเดิม ก็เป็นนิติบุคคลกับตัวแทนนิติบุคคลแต่เดี๋ยวนี้ก็มีพรบเฉพาะแล้ว

            มาตราที่สำคัญที่ต้องใช้โยง 425 คือให้ดูมาตรา 5 ของพรบรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่สิ่งที่แตกต่างกันคือหน่วยงานของรัฐนั้น ผู้เสียหายจะฟ้องหน่วยงานของรัฐโดยตรงฟ้องเจ้าหน้าที่โดยตรงไม่ได้ ศาลต้องยกฟ้อง

            เรามาดูองค์ประกอบทางจิตใจและความรับผิดทางเคร่งครัด ก็เพื่อให้ผู้เสียหายคือผู้บริโภคฟ้องคดีได้โดยง่ายเมื่อสักครู่เราก็พูดถึงเรื่องจงใจ ในทางแพ่งเรามองในข้อเท็จจริงของผลการกระทำ ประมาทเลินเล่อ มองจากวิญญูชนการกระทำโดยประมาทเลินเล่อคืองดเว้นในเหตุที่วิญญูชนพึงกระทำ

            ละเมิดนอกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ต้องไปดูกฎหมายเฉพาะ

            การรับผิดอย่างเคร่งครัด ก็ คือความรับผิดในสินค้า มาตรา 5 บอกว่าผู้ประกอบการทุกคน  สร้างความคิดกฎหมายว่า ฟ้องผู้ประกอบการ คือ คนผลิต คนนำเข้า คนขาย คือกลุ่มคนในวงจรที่ทำให้ผลิตภัณฑ์จากโรงงานไปสู่มือผู้บริโภค ผู้ผลิตอยู่เมืองจีน ตาสีตาสาคงไปดำเนินการลำบาก จึงให้ฟ้องผู้นำเข้าได้

            ผู้ประกอบการทุกคนต้องรับผิด โดยมีเงื่อนไขคือได้ขายสินค้าให้แล้ว ต้องรับผิดไม่ว่าจะจงใจหรือประมาทเลินเล่อหรือไม่ก็ตาม

            ความเสียหายและค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด 420 บอกว่าจำเป็นต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน การเยียวยาที่สำคัญสุดคือ ให้หยุดการกระทำสิ่งนั้น หรือการคุ้มครองชั่วคราวก่อน ละเมิดคราวต่อไป ก็เป็นการเยียวยาที่ดีที่สุด เพราะมันจะไม่มีความเสียหาย

            คือมีการขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนฟ้องได้ เป็นหลักกฎหมายใหม่ ค่าสินไหมทดแทนประกอบด้วยการคืนทรัพย์และใช้ราคาหรือค่าเสียหาย อายุความก็ต่างกัน เวลาที่เราเรียกคืนทรัพย์หรือใช้ราคา ไม่มีอายุความเพราะเป็นเรื่องกรรมสิทธิ์ เจ้ากรรมสิทธิ์สามารถติดตามเอาคืนได้ตราบเท่าที่มีทรัพย์นั้น

            การใช้ราคาแทนทรัพย์ก็ไม่มีอายุความเช่นกัน

            ในภาคสองของปัญหาละเมิดหลังจากที่เราดูเรื่องความรับผิดแล้ว ภาคสองก็ต้องดูเรื่องค่าสินไหมทดแทน และไม่ว่าคุณจะเข้าใจหลักกฎหมายดีอย่างไรไม่มีทางอธิบายได้ดีเท่า 438 วรรคแรก กฎหมายละเมิดคือจะเยียวยาได้ดีอย่างไร

            ค่าสินไหมทดแทนจะได้ดีอย่างไร ก็ต้องดูถึงความเสียหาย ในละเมิด มันสละสลวยพอที่คุณต้องท่อง

            เริ่มจากชีวิตความตาย ค่าสินไหมทดแทนที่เรียกได้ คือ 438 ก็เรีย 443 445 ก็เรียกค่าปลงศพหรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นในการปลงศพ ดังนั้นเรียกในจิตใจไม่ได้ เพราะประมวลไม่ให้เรียก

            แต่ก็มีเรียกได้ ในพรบสินค้าไม่ปลอดภัย ก็เรียกค่าเสียหายต่อจิตใจได้แล้ว  ตั้งแต่ 2551 เป็นต้นมา

            ค่าเสียหายร่างกาย อนามัน 444 445 446

            446 เป็นค่าเสียหายพิเศษสำหรับความเสียหายที่ไม่ใช่ตัวเงิน ความเจ็บปวด ทรมาน ว้าเหว่ เจ็บป่วย ดังนั้นเวลาโดนหน่วงเหนืยวกักขัง ความเสียหายต่อเสรีภาพ ก็เทียบได้กับกรณีอาญา

            ดังเช่นกรณ๊เจ้าหน้าที่จับคนโดยไม่มีหมายค้น ไม่มีหมายจับ ก็เขียนค่าเสียหายที่ไม่ใช่ตัวเงินได้ ก็เรียกโดยพฤติการณ์คือ หน่วยงานรัฐมีหน้าที่ปกป้องความสงบสุขของประชาชน แต่กลับมากระทำเอง ก็เรียกได้สูงกว่าปกติ คือ มากกว่าตู้เย็นตู้เดียว ก็ต้องมีจินตนาการ

            การเสียหายต่อทรัพย์สิน จะเรียกอะไรได้บ้าง ความเสียหายต่อสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ขณะนี้ รธน รับรองมากมายเลย

            ส่วนค่าเสียหายเราก็พิสูจน์ได้ตามจริง ในกรณีที่เราเรียกร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ก็เป็นความเสียหายจิตใจ 446ได้

            หรือกรณีหญิงที่ได้รับความเสียหายในการกระทำความผิดอาญาเกี่ยวกับเพศ มาตรา 446 ใช้คำว่าอะไร ผู้ใดทำผิดอาญาเป็นทุรศีลธรรมแก่ตน

            แต่ถ้าผู้เสียหายเป็นผู้ชายหล่ะ น่าจะอ้าง 446 วรรค 2 ไม่ได้ ก็น่าจะอ้าง 446 วรรค แรกได้ ความเสียหายเกี่ยวกับเพศ ปัจจุบัน นั้น เพศชายก็เป็นผู้เสียหายได้

            ค่าเสียหายต่อความเสียหายต่อจิตใจ พรบสินค้าไม่ปลอดภัย มาตรา 11 วรรค 1 ให้สามีที่ภริยาตายสามารถเรียกได้ด้วย เพราะฉะนั้น เด็กที่ทานนม ที่เปื้อนเมลานิน แล้วตาย บิดามารดาก็เรียกค่าเสียใจได้

            การเศร้าโศกเสียใจอับอาย ก็มาจากกฎหมายต่างประเทศ ในกฎหมายลักษณะละเมิดที่ไม่ใช่ประมวลแพ่งที่เป็น การคืนประโยชน์การเรียกผลกำไร ก็คล้ายๆกับ ลาภมิควรได้ ทางความลับทางการค้าก็คืนให้แก่ผู้ต้องเสียหายทั้งหมด อันนี้คือการเยียวยาพิเศษในกฎหมายเฉพาะ เพราะฉะนั้นถ้าเราดูหลักละเมิด 420

            การประมาทเลิ่นเล่ออย่างร้ายแรงยังมีประเด็นเรื่องการกระทำความเสียหายจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ยังไม่มีคำพิพากษาชัดเจน

            อาจจะเป็นการไม่ใช้ความระมัดระวัง แม้เพียงเล็กน้อย

            นอกจากนั้นยังมีความรับผิดโดยเคร่งครัด ในสินค้าไม่ปลอดภัย

            สิ่งที่สำคัญอีกอันคือการสัมพันธ์การกระทำและผล อีกอันหนึ่งที่เป็นข้อต่อสู้คือ เหตุแทรกแซง

            ความรับผิดเพื่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายของ 420 คำว่าผิดกฎหมายในที่นี้คือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ต้องไปหาว่า มีมาตราใดบัญญัติว่าเป็นการผิดกฎหมาย

            420 เป็นมาตราทั่วไป ส่วนมาตราต่างๆในละเมิด กฎหมายแต่ละมาตรามีบัญญัติการรับผิดเฉพาะ เราก็สามารถใช้มาตราเฉพาะได้เลย เช่น สุนักล็อตไวเรอร์กัดก็ใช้ 433 ได้เลย เพราะจะเป็นการง่ายในการฟ้อง เพื่อประโยชน์ของโจทก์เอง ก็ได้ประโยชน์โดยเฉพาะภาระหน้าที่การพิสูจน์ แทนที่จะเป็นโจทก์ สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 420 เป็นสิทธิที่มีกฎหมายรับรอง

            โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิส่วนบุคคล สิทธิในครอบครัว บุคคลสาธรณะอ้างสิทธิได้น้อยกว่าบุคคลธรรมดา

            การกล่าว หรือไขข่าวแพร่หลาย สมัยนี้เรียกว่าโฆษณานั่นเอง ถ้าเป็นข้อความเป็นเท็จ ทำให้เสียหาย เข้า 423 แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เป็นประโยชน์ประชาชนก็เป็นเรื่องละเมิดได้ ไม่เข้า 423 แต่เป็น 420

            ปัจจุบันก็มีเรื่องคลิปวิดีโอ

            การเยียวยาละเมิดแม้เป็นการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน มีปัญหาว่ายังไม่มีการทำละเมิด แต่จะขอให้หยุดการกระทำได้หรือไม่ เป็นปัญญาที่เคยมีในวิแพ่ง นั้น เป็นหลักคิดเก่าว่ายังไม่มีการโต้แย้งสิทธิก็ขอไม่ได้ แต่มีแนวคิดสมัยใหม่เช่นในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่มองว่าเป็นการดีเสียอีกที่ยังไม่มีการเสียหายเลย

            หรือ วิ ผู้บริโภค ขอให้หยุดการกระทำก่อนฟ้องคดีด้วยซ้ำ

            421 จะใช้ในเรื่องการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ในคำอธิบายเก่าเรียกการใช้สิทธิเกินส่วน สมัยใหม่มักโยงมาตรา 5 การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต มันใช้กับเรื่องชื่อทางการค้า เป็นการ ใช้สิทธิ

            423 เป็นเรื่องละเมิดต่อชื่อเสียงเกียรติคุณทางทำมาหาได้มักใช้กับการประกอบธุรกิจ การค้า  เป็นเรื่องเท็จหรือไม่เท็จ

            ปัจจุบันมันมีการโฆษณาเปรียบเทียบอย่างนี้จะเรียกเท็จไม่ได้เพราะมันเป็นความเห็น

            เรื่องที่มีข่าวบ่อยมากก็คือความเสียหายเพราะสัตว์ มีข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับล็อตไวเรอร์ตลอดเลย

            433 434 ใครต้องรับผิดบทสันนิฐานเป็นอย่างไร 436

            433 กับ 437 เป็นมาตราสำคัญที่เกิดจากทรัพย์ 437 คือเกิดจากกำลังเครื่องจักรกล สิ่งที่สำคัญไม่แพ้วรรคแรกก็คือวรรคสองทรัพย์อันตรายโดยสภาพ โดยการใช้ โดยกลไก

            เช่นสวนสนุก

            บทบัญญัติเกี่ยวกับละเมิดที่เราไม่ค่อยออกสอบตุ๊กตาเลย แต่ก็เลยออกสอบปากเปล่าผู้ช่วยคือ นิรโทษกรรมคืออะไร เราลองดูเรื่องป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายในประมวลกฎหมายอาญา การกระทำตามคำสั่ง การกระทำโดยจำเป็น ทางกฎหมายอาญา ปัจจุบันเราเรียกว่าข้อยกเว้นความรับผิด

            เช่นการทำลาย สิ่งต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดภัยพิบัติต่อสาธารณะ เป็นการไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง ความชัดเจนอาจน้อยกว่าอาญา ก็ดูกฎหมายอาญาในส่วนนั้นมาเทียบเคียง ฏีกาที่มีก็เป็นเรื่องโบราณ

            ป้องกันภยันตรายภัยสาธารณะ เช่น น้ำจะท่วมหมู่บ้าน กับภัยเอกชนเช่น เห็นคนหนึ่งนอนหลับในรถแล้วพบว่าก๊าซคาบอนมอนออกไซด์จากท่อไอเสียเข้าไปจะทำให้เขาตาย การทุบกระจกรถนั้นก็เป็นเรื่อง ภัยเอกชนซึ่ง ได้รับการยกเว้นในระดับหนึ่ง  เพราะอาจเป็นการจัดการงานนอกสั่งเพื่อประโยชน์ตัวการไปแทน

            มันก็มีอยู่แค่นี้แหละเรื่องละเมิด ถ้าเราสร้างแผนภูมิให้ดีมันก็มีแค่นี้ในกรอบนี้ ประมวลแพ่ง พรบฉบับไหน

            ต่อไปก็คือค่าสินไหมทดแทน กรณีนี้ผู้ต้องเสียหายคือโจทก์มีส่วนผิดในความเสียหายหรือไม่ 442 + 223 หลายๆครั้งความเสียหายเกิดขึ้นเพราะโจทก์มีส่วนผิดด้วย

            ก็ต้องมีการประเมินความเสียหายเพราะฝ่ายใดก่อยิ่งหย่อนกว่ากัน

            ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล มีเหตุใหม่แทรกแซงหรือไม่

            ต่อมาคืออายุความศาลจะไม่ยกเอง จำเลยต้องยก อายุความก็ต่างกันไป ปพพ กับ พรบ ต่างๆ

            เวลาเราอ้างอายุความก็ลอยๆไม่ได้ต้องนับแต่วันใดด้วย

            ยังมีข้อต่อสู้เรื่องอำนาจฟ้อง โดยเฉพะเรื่องการสมัครใจในการต่อสู้เป็นเรื่องของการมีส่วนผิดไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่ใช่เรื่องของการยินยอมนะครับ เป็นเรื่องของการไม่มีอำนาจฟ้อง

            การที่ผู้ตายเสียชีวิตเพราะไม่คาดเข็มขัดด้วย หรือไม่สวมหมวกการกระแทก กฏหมายอีกสองฉบับคือข้อสัญญาไม่เป็นธรรมมีสองมาตราเท่านั้นครับ ก็เช่นมาตรา 8 หรือ มาตรา 10 อะไรสักอย่าง

            อีกฉบับคือพรบ การกระทำละเมิดจาก เจ้าหน้าที่

            มีคำพิพากษาฏีกาเรื่องหนึ่งเรื่องครูพละ ให้เด็กอายุเก้าขวบวิ่งตอนเที่ยงรอบละ 200 เมตร สามสิบรอบจนเด็กเสียชีวิต ฏีกาเรื่องนี้วัดหลายอย่าง

            เริ่มเราต้องดูว่าเป็นโรงเรียนเอกชนหรือของรัฐบาล ก็ 425 ปพพ หรือ มาตรา 5 พรบความรับผิด

            การให้วิ่งในตอนเที่ยง พฤติการณ์ให้วิ่งเป็นกิโลของเด็ก เก้าขวบ ก็มีคำที่จับได้ ว่าไม่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเช่นคำว่าแม้ ครูจะประมาทเลินเล่ออยู่บ้างก็เป็นคำที่ให้จับได้

            ปีนี้พรบ สินค้าไม่ปลอดภัยก็มีเพิ่มเติมมาไม่กี่มาตรา

            ก็มีประเด็นสำคัญใหม่ๆไม่มาก เช่น การอายุความสะดุดหยุดอยู่กับ ค่าเสียหายเชิงลงโทษวันนี้เราได้ทบทวนละเมิดครบแล้ว กลับไปอ่านสักสองสามรอบก็สอบได้แล้ว

Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages