สรุป ห้างฯ-บริษัท ครั้งที่ 3. ( สรุปจากคำบรรยาย ห้างฯ-บริษัท ครั้งที่ 8-11 ภาค1สมัยที่61 )

1,699 views
Skip to first unread message

nobita kwang

unread,
Apr 22, 2009, 1:37:16 AM4/22/09
to LAWSIAM, lawsiam com, STDศูนย์รวบรวมและสรรสร้างข้อมูลกฎหมาย -

ชุดที่ 3

หากเอกสารสรุปคำบรรยายนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้า  kankokub  ขออภัยและน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว หากจะมีประโยชน์อยู่บ้างขอมอบให้แก่ ท่านอาจารย์ สุรศักดิ์ วาจาสิทธิ์ ผู้บรรยาย   , ผู้มีน้ำใจส่ง flie เสียงที่ทำให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ฟังคำบรรยาย , บิดามารดาข้าพเจ้า

 

 

ถามก่อนเข้าบทเรียน

            1.บริษัทสยาม จำกัด ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งทุนเป็น 1 แสนหุ้น มูลค่าหุ้นจดทะเบียน หุ้นล่ะ 10 บาท นายเอกถือหุ้น สี่หมื่นห้าพันหุ้น บริษัทมีนายหนึ่ง นายสอง นายสามเป็นกรรมการ ต่อมาคณะกรรมการทั้งสามคนได้ขายที่ดินของบริษัทให้แก่นายสี่ ซึ่งราคาที่ดินดังกล่าวต่ำกว่าราคาตลาดมากโดยไม่มีเหตุอันสมควรทางธุรกิจที่จะทำเช่นนั้น นายเอกได้มีหนังสือถึงบริษัทสยามจำกัดเพื่อให้ฟ้องคณะกรรมการทั้งสามคนให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่บริษัทได้มีหนังสือถึงนายเอกยืนยันไม่ฟ้องกรรมการทั้งสามเพราะกรรมการทั้งสามมีอำนาจขายที่ดินได้ นายเอกจะฟ้องกรรมการทั้งสามได้หรือไม่ ? ( ประเด็นย่อยข้อ7 ข้อสอบเนฯสมัยที่ 61 )

            2.ข้อเท็จจริงตามข้อ 1 นายเอกจะฟ้องนายสี่ขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะได้หรือไม่  ?(ประเด็นย่อยข้อ7 ข้อสอบเนฯสมัยที่ 61 )

                                   

    3. บริษัทสยามจำกัด มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท มีมูลค่าหุ้นละ 100  บาท มีนายหนึ่งและนายสองเป็นกรรมการ ต่อมาเดือนมีนาคม บริษัทฯขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการจึงขอยืมเงินจากนายหนึ่ง จำนวน 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในเดิอนสิงหาคม กิจการของบริษัทฯได้ดีขึ้น ผู้ถือหุ้นประสงค์จะตอบแทนความช่วยเหลือของนายหนึ่งผู้ถือหุ้นจึงได้ประชุมกันลงมติพิเศษให้บริษัท ออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้น 1หมื่นหุ้น โดยให้เสนอให้นายหนึ่งคนเดียว มติพิเศษของผู้ถือหุ้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ? ( ประเด็นย่อยข้อ7 ข้อสอบเนฯสมัยที่ 57 )

    4.ข้อเท็จจริงตามข้อ3หาก ราคาหุ้นที่เสนอขายให้แก่นายหนึ่งหนึ่งนั้นมูลค่า 90 บาท  มติพิเศษของผู้ถือหุ้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? ( ประเด็นย่อยข้อ7 ข้อสอบเนฯสมัยที่ 57 )

            5.ข้อเท็จจริงตามข้อ3 และ4 หากจำนวนหุ้นทั้งหมดนั้นให้ถือว่าเงินที่กู้ยืมส่วนหนึ่งจำนวน 9 หมื่นบาท ที่บริษัทฯยืมไปจากนายหนึ่งเป็นเงินชำระค่าหุ้นและให้คืนเงินที่กู้ยืมที่เหลืออีก 1 แสนบาทให้นายหนึ่ง  มติพิเศษของผู้ถือหุ้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? ( ประเด็นย่อยข้อ7 ข้อสอบเนฯสมัยที่ 57 )

ตอบข้อ6.

และที่ลงมติให้นายหนึ่งชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน โดยทำการหักกลบลบหนี้กับเงินที่บริษัทสยาม จำกัด ยืมมาจากนายหนึ่งก็กระทำไม่ได้เช่นกัน เพราะขัดต่อมาตรา 1119 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่าในการใช้เงินค่าหุ้นนั้น ผู้ถือหุ้นจะหักหนี้กับบริษัทหาได้ไม่ มติพิเศษของผู้ถือหุ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย มติพิเศษของผู้ถือหุ้นไม่ชอบด้วยกฏหมาย

ครั้งที่ 8 . (เกริ่นนำ บริษัทจำกัด ) 2 ชั่วโมง

            เริมสองชั่วโมงเลยคราวนี้เป็นเรื่องบริษัทจำกัด มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรต้องระวังเหมือนกันว่าเป็นตัวบทใหม่หรือไม่

            หัวข้อสำคัญไม่ยากและจำเป็นมาก และการแก้ไขครั้งใหม่ก็ตรงตามเจนารมย์ เป็นกฎหมายที่ตั้งกันเอง ให้ตั้งง่าย ผู้ก่อการคนใหม่ก็ต้องเป็นสามคน ก็ งง ทำไมต้องเป็นสาม ไม่ เป็นสองให้ง่าย

            ก็แปลงจากห้างหุ้นส่วน จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัดเนี่ย  เป็นบริษัทจำกัดได้ต่างจากเมื่อก่อนที่จดแบบไหนก็เป็นแบบนั้นไปเลยตาม 1246/1 เป็นต้นไป

            1096 เป็นต้นไป ก็บริษัทจำกัด ต่างกับบริษัทมหาชน เริ่มที่ต่างตรง การที่บริษัทจำกัดห้ามออกหนังสือชี้ชวนคดีอาญาเลยนะครับ แต่บริษัทมหาชนตรงข้ามที่จะออกได้ต้องไปทำตามระเบียบตลาดหลักทรีพย์

            ที่เรียนวันนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัทมหาชนเลยนะครับ 1077 เป็นองค์กรธุรกิจประเภทหนึ่ง จุดต่างจะทำองค์กรธุรกิจรูปแบบไหน ดี 1096 ดูนิยามคือแบ่งทุนเป็นหุ้นเท่าๆกันผู้ถือหุ้น ต่างรับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนค้างส่งใช้เท่านั้น

            ถามชีวิตจริงใครอยากไม่จำกัดไหม ก็ไม่มี ถ้ามีคำว่าจำกัด ให้ธงแดงไว้เลย ว่าตลาด หรือจดทะเบียน ที่มาที่ไปก็ตั้งแต่สมัยล่าอาณาณิคมแล้ว ว่า ต้องการให้คนมาร่วมลงทุน

            และที่ต่างกับห้างหุ้นส่วนสามัญก็คือ มาตรา 1015 เป็นหัวใจของกฎหมายระบบนี้ คือเป็นนิติบุคคลต่างหากจาก บุคคลที่เป็นหุ้นส่วน

            1096 บอกรับผิดจำกัดเพียงเงินที่ยังส่งใช้ไม่ครบ กฎหมายบริษัท ก็มีความชัดเจนคือ จำนวนใบหุ้นมองง่าย

            มาตรา 1097 คือกฎหมายไทยเดิมบอกต้อง 7 คน ซึ่งก็ยุ่งยากเกิดยาก ชีวิตจริงเวลาตั้งก็เอาพนักงานมาใส่  สามคนก็ยังเถียงเลยว่าทำไมไม่ให้สอง ให้ง่ายไปเลย

            ก้เอาหนังสือบริคณ สนธิ ทำไมต้องมี บริษัท เป็นบุคคลที่กฎหมายสมมุติ ให้รับผิดจำกัดจะได้มีความกล้าในการทำธุรกิจ หนังสือบรึคณก็จะระบุวัตถุประสงค์ และก็บอกว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ อะไรที่นอกขอบก็ไม่ผูกพันบริษัทเลยนะครับ ให้สัตยาบันก็ไม่ได้

            ดูนิยามมาตรา 66 ก็บอกถึง วัตถุประสงค์ว่า เป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นมาตราที่สำคัญอีกมาตราหนึ่ง

            บริษัท จำกัด ต้องมีคำว่า จำกัด ท้ายชื่อนั้นเสมอ ก็ มาตรา 25 เป็นเหมือนธงแดง ว่า จดทะเบียน รับผิดจำกัดนะ จึงมีชื่อเตือน

            วัตถุประสงค์ก็มีเพื่อเตือนบุคคลภายนอกด้วยว่า นอกขอบแล้วทำไม่ได้ให้สัตยาบันก็ไม่ได้

1099 คือการทำหนังสือบริคน ว่าต้องทำอย่างไร

            มาตรา 1100 ชื่อว่าผู้เริ่มก่อการ ชื่อฟังไม่ค่อยดู บอกว่าต้องซื้อหุ้นๆหนึ่งเป็นอย่างน้อย สังเกตให้จำง่าย ความรับผิดของผู้ก่อการยังไม่จดทะเบียน ก็คล้ายกับหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเลย 1113 ก็เหมือน 1025

            มาตรา 1101   คือจะเป็นกรรมการนแล้วจะรับผิดไม่จำกัดก็ทำได้นะ ในชีวิตจริงใครจะเป็นคนทำ

            ชีวิตจริงไม่มีหรอกครับ วรรคสองก็บอกคนตามวรรค แรก

            บริษัท จำกัด ก็ห้ามทำหนังสือชี้ชวน เพราะป้องกันคนต้มตุ๋น

            กฎหมายประมวลแพ่งที่เรียนมูลค่าหุ้น ต่ำสุด 5 บาท  1117 และห้ามขายต่ำกว่ามูลค่าหุ้น มีหลักอยู่อย่างว่าบริษัทจำกัด ก็เอาไปจดทะเบียน ถ้า ให้ขายต่ำกว่าได้มันก็หลอกเจ้าหนี้ได้เวลาจดทะเบียนนะครับ  ต้องการคุ้มครองเจ้าหนี้ วรรคสองก็บอกอีกว่าขายหุ้นราคาสูงกว่าราคาที่จดทะเบียนก็ได้ ถ้าได้มีการเขียนให้อำนาจในหนังสือบริคณห์สนธิให้ทำได้  ก็เคยเอามาออกข้อสอบเนฯ

            หนังสือบริคนณ์ไม่ให้อำนาจ แล้วไปขาย คือบริษัทปูนซีเมนแห่งหนึ่งเพิ่มทุน ปรากฏว่า หุ้นราคาจดทะเบียนหรือราคาพา สิบบาท ขายได้สามร้อยบาท ออกหุ้น 150 ล้านหุ้น ได้มูลค่า กำไร อื้อซ่าเลย

            การเรียกเก็บ อย่างน้อยก็ต้อง ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นอย่างน้อย

            1106 การผูกพันผู้เข้าซื้อหุ้น ให้ขีดคำว่าหนังสือชี้ชวน ขัดกับ 1102 ก็บอกว่าจองแล้วก็ต้อง รับผิด

            1107 เมื่อหุ้นชนิดที่ต้องส่งเงินแล้วมีคนซื้อหมดแล้วก็ต้องเรียกประชุมตั้งบริษัทเพื่อให้เกิดสภาพนิติบุคคล

            มาตรา 1108 ต้องทำอย่างไรบ้างในการตั้งบริษัท

            ( 4 ) ที่น่าสนใจ ดูประกอบกับมาตรา 1142 บอก เพราะมติพิเศษ มันก็แก้ยาก หุ้นบุริมสิทิ เนี่ยสำคัญ คืออาจเป็นได้ พิเศษกว่าหุ้นสามัญ แล้วแต่จะกำหนด

            ( 5 ) ต้องระวังเพราะมีบางทีสมัยก่อนลงทรัพย์แล้วตีมูลค่า ให้เกิน 1108 (5 ) โยงกับมาตรา 1119 

            ( 6) เริ่มตั้งกรรมการและพนักงานสอบบัญชี ตรงนี้แหละจะเริ่มมีขอบอำนาจแล้วว่าจะให้กรรมการมีกี่คน และใครเป้นผู้มีอำนาจ

            มาตรา 1109 ผู้เริ่มก่อการ หรือ เข้าชื่อซื้อหุ้น จะลงคะแนนเสียงไม่ได้ถ้าตนมีส่วนได้เสีย พิเศษ ในปัญหาที่ยกขึ้นวินิจฉัย

ฎ.1246/2520 การเริ่มตั้งกรรมการไม่ใช้ส่วนได้เสียพิเศษ

            มติที่ประชุม ที่มีผล ก็เป้นเรื่องมติในการตั้งบริษัทไม่มีประเด็นมาก

            มาตรา 1110  บอกว่าเมื่อประชุมตั้งบริษัทเสร็จแล้วให้ส่งไม้ให้กรรมการเลย จากผู้ก่อการให้มาเป็นกรรมการเลย

            เมื่อกรรมการได้รับไม้ผลัดแล้วก็ให้ทวงเงิน เข้าซื้อหุ้นเลย  

            จดทะเบียนแล้วมีรายการอะไร 1111ก็บอกว่ามี 8 รายการการ ก็ตามหนังสือรับรองที่ทางพาณิชย์ออกให้เป็นเอกสารมหาชน  

            ก็มีประเด็นว่าเวลาเราไปคัดหนังสือรับรองเคยเกิดเรื่อง กรรมการชุดหนึ่ง ก็มีค่าโบรกเกอร์หรือค่านายหน้า ร้อยล้าน เราเป็นคนจ่าย จะดูจากหนังสือรับรองที่เขาเอามายื่นได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ เพราะว่าต้องไปคัดอัพเดทที่สุด

            1021 -1023 ว่า ผูกพัน บริษัทหรือไม่ ต้องผ่านกระบวนการนี้ก่อน

            เรื่องใหญ่จะเจอเมื่อเป็นทนายความ ก็ต้องเชื่อถือหนังสือรับรอง อย่าไปเชื่อถือหนังสือรับรองที่เค้ายื่นนะ ไปคัดใหม่

            หลักจดทะเบียน คนนอกต้องรู้  ตัวบทว่าลงราชกิจจาแล้วต้องรู้  คำตอบผูกพันไม่ผูกพันเอาหลักไหนมาตอบครับ ก็ยันตามหนังสือรับรองครับ

            มีหลักใหม่ 1023 /1 คือจะยกข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผุ้สุจริตไม่ได้ จะพูดในคราวหน้า

            บริษัทเมื่อจดทะเบียนแล้ว หลักใหม่คือ 1111 / 1

            คือวันเดียวเสร็จ  ทำการรวบรัดหมด ถ้าใช้บททั่วไปต้องใช้เวลา สองอาทิตย์แต่กรณีใหม่ เอาผู้เข้าชื่อ ลงชื่อหมด เก็บเงินทันทีเลย นะครับ ต้องทำตามนีหมด

            สมัยก่อนพอเงินเยอะๆ เรียกเก็บค่าหุ้นแล้วกรรมการเอาเงินไปดองกินดอก กฎหมายเลยบังคับว่าถ้าไม่ได้เอาเงินไปตั้ง ภายในสามเดือนเสียเนี่ยเสียหมดเลยต้องตั้งใหม่

            สามเดือนแรกไม่มีดอก ดู 1112  มีเรื่องกรรมการไม่ต้องรับผิดโยงกกหมายพยาน

ความรับผิด ค่าหุ้นหรือผู้เริ่มก่อการมีความเสี่ยงสุด คือ 1113 คล้าย 1025 คือหลักนี้ง่าย คือก่อน จดทะเบียนมันไม่มีนิติบุคคล ฉะนั้นถ้าเป็นผู้เริ่มก่อการคือต้อง

 หัวใจอีกเรื่องคือเรื่องสัตยาบันค่าใช้จ่าย 1108( 2 ) คือเรื่องค่าใช้จ่ายให้สัตยาบันคือต้องอนุมัติมาก่อน ถ้าเป็นผู้ก่อการดีๆ ฉลาดๆวาระนี้จะลืมไม่ได้ ตั้งทนายมาตั้งบริษัท เช่าอาคารต่างๆ ต้องให้สัตยาบันไว้ก่อน เสร็จแล้วต้องรีบจดทะเบียนเพื่อปลดเปลื้องความรับผิดตนเอง เป็นผมไม่รอให้สามเดือนหรอก เป็นเองต้องรีบจดทะเบียน

 1106 การจองซื้อหุ้นต้องระวังให้ดี โดยหลัก ก็เป็นการทำนิติกรรมอย่างหนึ่ง แต่ แปลกคือกฎหมายบริษัทแปลก มาตรา 1114 คือมันแปลกตรงที่ สวนทางหลักนิติกรรมเลยครับ เพราะบุคคลภายนอกเค้าเชื่อถือ การจดทะเบียน

ในตอนเรียนอาจไม่เห็นความสำคัญกับเรื่องหุ้น ใบหุ้น แต่ที่จริงสำคัญนะครับ

1246/1 เป็นเรื่องใหม่ที่แปลงได้ จากคนที่ไม่รู้กฎหมาย

ดูต่อไปเรื่องหุ้น โดยหลักแล้ว เคยมีพรรคพวกไปลงทุนที่เวียดนาม เวียดนามมีเพียงบริษัท ก็แนะนำว่าถ้ามีบริษัทแล้วก็ทำเป็นตลาดหุ้นได้

ความที่เค้าต้องการให้คนมาลงทุน กลัวฉ้อฉลก็ห้ามชี้ชวนนี้เอง

มาตรา 1117 ก็ห้ามต่ำกว่าห้าบาทก็ปกติ

1118 ถือหุ้นเจ้าของรวมไม่มี เพราะคำว่าหุ้นแบ่งแยกกันเองหาได้ไม่ ก็มันเกิดปัญหาตอนคดีมรดก

1119 เป้นมาตราสำคัญ คือหุ้นที่ใช้ด้วยทรัพย์สิน ก็ไม่ต้องเต็มจำนวน วรรคสอง หักกลบลบหนี้หาได้ไม่

ถ้าเราไม่อยากเป็นหนี้ค่าหุ้นก็ให้เรียกเก็บให้เต็มเลย ดีกว่าห้างฯสามัญล้มแล้วล้มตลอดชาติ ก็มีคำถามว่าเงินค่าหุ้น ถ้ากรรมการเรียกแค่ 25 เปอร์เซ็น จะเรียกเก็บได้ถึงเมือ่ไหร่

1121 วิธีการเรียกเงินค่าหุ้นแต่ละคราว

ปัญหาเป็นไงถ้าไม่ส่ง คือผู้ถือหุ้นเบี้ยว   แล้วผู้ถือหุ้นต้องใช้ตามจำนวนนั้น และต้องไม่ต่ำกว่า 21 วันนะครับ เคยมีพนักงาน ก็ผู้ถือหุ้นให้จ่ายภายใน 21 วัน เพื่อให้เตรียมหาเงิน  

            ปัญหาคือถ้าไม่ส่งเงิน ผู้ถือหุ้นเบี้ยว สมัยก่อนมีการนิยมให้หุ้นลม ผู้ใหญ่ก็ดีใจ ชำระ 25 เปอร์เซ็นต์วันดีคืนดีบริษัทล้มก็ตามและครับ ให้มาเรียกเก็บอีก 75 แล้วเรียกเมือไหร่ก็ได้ไม่มีอายุความ

ปัญหาก็ต้องอ้างอย่างเดียวว่าเบี้ยว เพราะอ้างข่มขู่ก็ไม่ได้ ฉ้อฉลก็ไม่ได้กฎหมายห้าม

มาตรา1122 1123  1124 เป็นมาตรการตอบโต้ คือว่าต้องไม่เอาเปรียบผู้ถือหุ้นที่จ่ายตามกำหนด ก็คือต้องเสียดอกเบี้ย 7.5

มาตรการที่เกิดขึ้นดอกเบี้ยแบงค์ ยังแพงกว่าเลย 1123 มาตรการตอบโต้ขั้นต่อไปคือ กรรมการอาจส่งคำบอกกล่าวและเวลาอันพอสมควร ให้ ส่งใช้ ณ สถานที่ใด และบอกกล่าวไปว่า หากไม่ชำระก็จะมีการริบค่าหุ้น  ก้ไม่ใช่เป็นของบริษัทนะครับ 1128 บอกว่าถ้ามีการแถลงแล้ว บอกริบหุ้นเสียเมื่อไหร่ก็ได้ มาตรา 1125 ริบคืออะไร ก็ต่างกับเรื่องของมัดจำ 378

ริบในที่นี้คือการเอาออกขายทอดตลาดโดยไม่ชักช้า เช่นขาดส่ง ห้าสิบเปอร์เซ้น ก็ข้างสองล้าน ถ้าขายทอดตลาดสามล้าน ให้เอาคืน 1 ล้าน ปัญหาที่ขึ้นสู่สาลฏีกาคือเงินยังขาด อีกที่เหลือต้องรับผิดไหมครับ ก็กฎหมายไม่ได้กำหนดในมาตรานี้ แต่ก็โยงไปที่มาตรา 1106  ถ้าเป็นฎีกาที่ตรงตัวบทไม่ต้องห่วงเลข เพราะว่า ที่ตรงๆไม่อ้าง ข้อสอบเนฯชอบออกแบบแปลความ ถ้าไม่มีคำพิพากษาฏีกาแปลความ ก้ไม่ออก

ที่นี้ปัญหาก็คือการริบหุ้นและขายทอดตลาดก็มีคนซื้อไป 1106 การริบหุ้นไม่ชอบก็ตามก็ไม่ทำให้การขายทอดตลาดสิ้นผลไปไม่

คนที่ซื้อนี่เซฟ ต่อไป 1127-1128  ใบหุ้น ต้องมีอะไรบ้าง ก็ดูตามไป ตั๋วมีตั๋วผู้ถือ แต่ไม่มีหุ้นผู้ถือเพราะชีวิตจริงไม่มีการรู้เพราะไม่รู้ว่าจะ ส่งเงินปันผลไปให้ใคร

การโอนหุ้นก็มีสองประเภท 1129 ออกสอบมาสองปี 1135 ที่สำคัญคือ 1129  คือไม่แม่น กฎหมายเรื่องหุ้นแปลก หุ้นนี่เป็นสังหาริมทรัพยืประเภทหนึ่ง คิดง่ายๆก็เหมือนการขายรถยนต์  1129 อันหุ้นนั้นได้รับความยินยอม บริษัทไม่ใช่การถือหุ้นเป็นการเฉพาะตัว

ชีวิตจริงบางครั้งก็ต้องได้รับคความยินยอมจากกรรมการ โดยก็ต้องดูจากข้อบังคับ

1129 ดูวรรคสอง ออกไม่ออกข้อสอบก็ต้องจำ เพราะใช้ในชีวิตจริง ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอน มีพยานอย่างน้อยหนึ่งคนถ้าไม่ทำเป็นโมฆะ ปัญหาก็เกิดตามแนวถ้าไม่ได้ลงเลขหมายก็จะเกิดปัญหาขึ้นตามแนวฏีกา ดุปรัชญาครั้งนี้ก่อน ว่า แม้เป็นโมฆะก็ครอบครองปรปักษ์ ห้า ปี การโอนนั้นจะใช้ยันบริษัท กับบุคคลภายนอกก้ไม่ได้ เพราะต้องไปจดทะเบียนการโอนและสำนัขการงานในใบรายชื่อผู้ถือหุ้น ก็ควนต้องทำเลขทะเบียนผู้ถือหุ้นให้ถูกต้อง

1139 บอกว่าสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเก็บอย่างไร ขอดูได้หรือไม่

1141 ให้เป็นบทสันนิฐานไว้ก่อน เป็นการยันว่าใครคือเจ้าของ กฏหมายบังคับคิอให้มีตั้งแต่วันแรก

การโอนหุ้นสองคนถ้าเก็บไว้ที่ตัวเองก็ไม่ทราบได้

ครั้งที่ 9 . (เกริ่นนำ บริษัทจำกัด การเริ่มบริษัท )30นาที

ต่อครั้งที่แล้วเรื่องการโอนหุ้น 1129 มีประเด้นที่ควรหาความรู้เพราะว่าชีวิตประจำวันมีปัญหาเยอะแล้วก็มีประเด้นตามฏีกาเยอะพอสมควรนะครัย

1129 โอนก็ไม่ต้องได้รับความยินยอมจากบรั๋ทไม่เหมือนหุ้นส่วนสามัญแต่ ว่าในกรณีของหุ้นระบุชื่ออาจมีการกำหนดเป็นอย่างอื่นก็ได้ เพราะการทำธุรกิจเอกชนมัก จะเชื่อใจกันพอสมควร อาจป้องกันก็ได้

ข้อบังคับอาจกำหนดว่า การขายหุ้นให้คนนอกต้องขายให้กลุ่มที่เหลือก่อน ถ้ากลุ่มที่เหลือไม่ซื้อค่อยขายให้บุคคลภายนอก

เช่นจะขายให้บุคคลภายนอกได้ต้องมีที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ ก็มีข้อสอบอยู่ปีนึง ไม่ต้องกังวลคือถ้ามีพิเศษข้อบังคับข้อสอบจะบอกอยุ่แล้ว

ก็จะมีแบบโอนหุ้นอยู่แล้ว

ดูฎีกาวรรคหนึ่ง

ฎ.2177/2522

โจทก์ซื้อหุ้นพิพาทของบริษัทจำเลยจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาล โจทก์จึงเป็นบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะได้หุ้นเหล่านั้นมาในเหตุบางอย่าง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1132 บริษัท จำเลยมีหน้าที่ต้องลงทะเบียนรับโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นเหล่านั้นแทนเจ้าของหุ้นเดิมสืบไป จะอ้างว่าโจทก์ได้หุ้นดังกล่าวมาโดยขัดต่อข้อบังคับของบริษัทจำเลยบังคับให้บริษัทจำเลยจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยไม่ได้หาชอบไม่ เพราะการโอนหุ้นตามข้อบังคับของบริษัทเป็นคนละเรื่องกับการได้หุ้นมาดังกล่าว

 

เคยออกข้อสอบมาหลายปีแล้ว ข้อเท็จจริงว่า ผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งเป็นหนี้สินเจ้าหนี้ฟ้องได้คำพิพากษายึดหุ้นขายทอดตลาดนายกก็ไปซื้อหุ้นจากการขายทอดตลาดก็ให้มาฟ้องให้ เปลี่ยนชื่อ ก็บอกว่าไมได้เพราะข้อบังคับต้องขายให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมก่อน ข้อบังคับนี่ใช้บังคับกับบุคคลภายนอกไม่ได้ เข้าอีกมาตราคือ 1132

พูดง่ายๆ คือ 1129 ไม่ใช้กับบุคคลภายนอกที่ซื้อจากการขายทอดตลาด

557/2540 ก็มีข้อบังคับว่าห้ามโอนให้บุคคลภายนอก ผุ้รับโอนก้ไปซื้อมาแล้วก้บังคับไม่ได้

วรรคหนึ่งเป็นการห้ามโดยข้อบังคับ

1130 การห้ามโอนโดยผลของกฎหมาย หุ้นใดเงินเรียกค่าหุ้นยังค้างอยุ่อาจไม่รับโอนก็ได้ ก้มีการเถียง

14 วันก่อนการประชุมบริษัทอาจมีสิทธิปิดสมุดทะเบียนได้

1129 วรรคสองก็มีฎีกา  ที่เป้นแบบการโอน

1308/2515 น่าสังเกตและเป็นตัวอย่างที่ดี คือผู้โอนกับผู้รับโอน ก็ทำโอนกันเหมือนขายรถยนต์ ก็ต่างฝ่ายต่างก็มีหนังสือไปแจ้งบริษัทว่า ต่างฝ่ายต่างโอนแล้ว ก็ไม่สมบูรณ์ เพราะว่า 1129 เป็นแบบ ขาดพยานอีก แล้วต้องอยุ่ในใบเดียวกัน ก็สังเกตนะว่า โมฆะก็ดันไปอยู่ก่อนการกำหนดเลขหมาย

ข้อเท็จจริงในคดีคือไม่ได้บอกว่าโอนขายหุ้นเลขใด เป็นแบบไหม ก็ไม่เป็นฏีกานี้ก็เป็นการแปลความที่ข้อสอบเนฯชอบมากข้อสอบในการแปลความหรือตีความ ข้อสอบปีนั้นก็ง่ายตรงว่าโอนขายทั้งหมด แต่ถ้าเป็นโอนขายบางส่วน ก็ยังเป้นปัญหาโต้แย้งกันอยุ่

2970/2522 คนซื้อทอดสอง ก็สุจริตเสียค่าตอบแทน ก็คือไม่ชอบตั้งแต่ทอดแรกแล้ว ตามหลักผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผุ้โอน

การโอนเช่นนี้จดแจ้งไม่ได้ ประเด็นคือไม่ได้จดทะเบียน การทำบริษัทที่ดีก้ต้องมีสมุดจดทะเบียน เพราะต่อไป คนซื้อจะได้มั่นใจ

วรรคแรกเป็นการยันกันเองผุ้ซื้อผู้ขาย วรรคสามคือยันกับบุคคลภายนอก ปัญหาว่าคนนอกหล่ะ เวลาล้มละลาย

1253/2537 อันนี้คือโอนไม่ชอบและไม่ได้จดแจ้งบริษัท บรัทก็ไม่ให้เข้าประชุม เงินปันผลก็ไปคนเก่า

โยงมาตรา 1176 อีก

2181/2530 เป็นเรื่องความรับผิดแล้วก็เป็นคดีที่คลาสสิค ด้วย ก็ชำระ สามสิบสี่สิบเปอร์เซ็น ก็โอนไปก็ไม่ได้แจ้ง

ข้อสอบจะออกก็แนวๆนี้ ค่าหุ้น เงินปันผล การเข้าประชุม

ที่จดแจ้งการโอนก็ปกติก็ต้องจดแจ้งโดยยการบอกให้ทราบ

3919/2521 คือมีการทำการโอนหุ้นต่อหน้ากรรมการ ทำเสร็จก็ไม่มีหนังสือจะผู้พันบรัทหือไม่เป้นการจดแจ้งไหม ก็ถือเพราะถือว่าบริษัททราบแล้วผุกพันบริษัท

478/2534 เพราะว่าถือว่าบริษัทรู้กรรมการก็ถือว่าเป็นผู้แทน

2531/2538 ก็ไม่ได้จดแจ้ง แต่ผู้รับโอนเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัทเจ๊งเงินค่าหุ้นจ่ายไม่ครบ ใครรับผิดค่หุ้นที่ขาดก็เช่นกัน

คำว่าจดแจ้งคือต้องการให้บริษัทรุ้ ข้อสอบตรงนี้ถ้าไม่เจอฏีกา ก้ดยนเหรียญเลย ต้องแม่นต้องมีฏีกา

1131 เป็นการโอนโดยผลของกฎหมาย คือ ถ้าตายทายาทก็เข้ามา ล้มฯ จพทก็เข้ามาแทน ก็เกิดประเด็นว่ามาตรานี้ ไม่ได้

ข้อบังคับห้ามโอน ก้เป็นหนี้เป็นสินก็ไปขายทอดตลาด ก็เข้า ข้อบังคับห้ามโอนไหม ก็เป็นการ

2177/2532  จดใกล้1132 ก็ได้ จะอ้างข้อบังคับใดๆไม่ได้

1133 มาตราหนึ่งที่น่าสนใจคือความรับผิดของผู้ที่โอนไปแล้ว โดยหลักคนจองต้องรับผิดทั้งหมดใช่ไหมครับ ปัญหาว่ายังชำระค่าหุ้นไม่ครบโอนขายได้หรือไม่  ก็ได้ แต่คุณขายทิ้งทั้งๆที่ยังจ่ายไม่ครบ ก็ต้องเข้าเกณฑ์คือผู้รับโอนไม่ต้องรับผิดกรณีที่หนี้ที่เกิดภายหลังโอน สองคือไม่ต้องรับผิดถ้าผู้รับโอนไม่มีเงินจ่ายก็กลับมาที่ผู้โอน

เรื่องการโอนตั๋วผู้ถือก็คือ 1125 หุ้นผู้ถือในชีวิตจริงไม่มีหรอกครับ เพราะคุณจะไม่รู้เลยว่า จะส่งเงินปันผลไปให้ใคร เรียกเก็บเงินค่าหุ้นคงค้างเท่าไหร่

เรื่องสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ก็รุ้ไว้เท่านั้นหล่ะครับ

1142    ไปดูในมาตรา 1108 ( 4 ) ประกอบคือเรื่องบุริมสิทธิต้องกำหนดตอนตั้งครับ

ข้อสอบอาจจะหลอกว่ามีมติพิเศษให้ทำการแก้ไข อย่างไรก็ไม่ได้นะครับกฏหมายเคร่งครัด

1143    ก็ห้ามอัฐยายขนมยายคือซื้อหมุนไปเรื่อย ทุนของบริษัทต้องไปจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์หลักการจำนำหุ้นก็เหมือนกันก็เป้นการหลอก

3848/2522

2826/2548

1560/2527

ตรงๆก็คือใช้หลักนิติบุคคลก็ไม่จำกัด

คราวหน้าก็จะเป้นเรื่องการบริหารงานบริษัทจำกัด

            ครั้งที่ 10 . (การบริหารจัดการ กรรมการ  )

มาตรา 1144 เป็นต้นไป หมวดนี้ทั้งหมวดถ้าท่านเข้าใจจะเรียนกฎหมายบริษัทได้ง่ายขึ้นมากเลย กฎหมายบริษัทมาจากการที่เอาโครงของรัฐธรรมนูญ ผู้ถือหุ้นเหมือน สส กรรมการเหมือนรัฐมนตรี

            กรรมการก็ไปดูมาตรา 70 ดูจะได้เข้าใจมากขึ้น เป็นผู้แทนนะครับ มีความหมายมาก ว่าเป็นผู้แสดงของความประสงค์ของนิติบุคคล เน้นนะครับคำว่าผู้แทน จะสับสนกับตัวการตัวแทน

ก็จะเห้นว่าครอบงำด้วยการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น

ดูมารา1167  มีคำว่าตัวแทน ไปดูมาตรา 797 หมายความว่าอะไรให้เอากฎหมายตัวการตัวแทนมาใช้ แล้วถามว่ากรรมการเป็นตัวแทนรึเป่าครับไม่ใช่ เป็นผู้แทน แต่ให้เอาเรื่องตัวแทนมาใช้เฉยๆ

แต่กรรมการเป็นผู้แทน

            ดูต่อว่า มีอำนาจตามหนังสือรับรองแต่จะรับผิดหรือไม่ ก็ดูมาตรา 820 คือถ้าทำตามหนังสือรับรองไม่ต้องรับผิดใดๆตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่ทำตามหนังสือรับรองเช่นหนังสือรับรองจดไว้ว่าสองคนพร้อมประทับตรา แต่ไปทำคนเดียวกรรมการก็ต้องรับผืดเอง ตาม823 บวก 1167 แต่ต้องเข้าใจหลักว่า 1144 1167 823 ก็โยงกันอย่างนี้แต่เวลาดูฏีกา ก็จะไม่งงแล้ว เช่นข้อสอบชิงทุนอาจารย์ก็ถามแค่นี้กรรมการกับตัวแทนต่างกันอย่างไร

            จะเป็นตัวแทนกรณีไหนครับ กรรมการสองคนประทับตรา กรรมการสองคนไม่ได้ลงนาทฃมเองแต่ได้ลงนามในหนังสือมอบอำนาจให้กรรมการคนหนึ่งไปทำแทนได้ เวลากรรมการคนเดียวไปทำแทนเป็นมาตรา 797 ตรงๆนะครับ กรรมการบางท่านจะเคร่งมากนะครับเรื่องความต่างกับของกรรมการ

            อิงมาตราแล้วกันครับดูประกอบฏีกาจะง่ายมาก

            มาตรา 1145 ก็เริ่มที่หนังสือบริคณ ที่ถ้าจะแก้ ก็มติพิเศษ เพิ่งแก้ด้วย มติพิเศษตอนนี้ก็ประชุมครั้งเดียวใช้เสีย75 เปอร์เซ็นต์ มีหกเรื่องเรื่องทั่วไปใช้มติธรรมดา

            มาตาร 1194 ไปดูก่อนเลยครับอันนี้คือเรื่องมติพิเศษ

คราวนี้เรามาดูเรื่องกรรมการก่อนครับ เรื่องกรรมการ  มาตรา 1150 – มาตรา1170  คือเรื่องกรรมการทั้งหมด

            กรรมการคือผู้แทนเป็นหัวใจนิติบุคคลเป็นคนแสดงเจตนา กรรมการเป็นเรื่องเฉพาะตัวไหม  วันดีคืนดีมอบอำนาจให้เพื่อนประชุมแทนได้ไหม

.3362 / 2532  กรรมการเป็นเรื่องเฉพาะตัวเพราะการที่เค้าตั้งเรา เป็นการมองจากฐานะส่วนตัวเท่านั้น

            คดีนี้ตั้งสองคนเพื่อให้ตัดสินใจให้คานกัน เรื่องนี้ หนึ่งไปขอสองให้มอบอำนาจให้หนึ่งลงนามได้ทุกเรื่อง 1151 บอกว่ากรรมการที่ประชุมใหญ่เท่านั้นเป็นคนกำหนด เสียงข้างมากเป็นใหญ่

            เวลาเรียนต้องเรียนเป็นระบบ ว่าถ้าลงทุนอะไรฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนใหญ่ก็แพ้หมดเลย มีเพียงหกเรื่องที่คุณมียี่สิบห้า บล็อกได้

            มาตรา 1151 เป็นเรื่องการสอนหลักเสียงข้างมาก

310/2520 ก็มีคำถามถ้ากรรมการแย่มากและกุมเสียงข้างมากในผู้ถือหุ้นหล่ะจะทำอย่างไร

ก็ร้องต่อศาลให้มาปลดก็ไม่ได้ เลวอย่างไรก็ไปฟ้องกรรมการทำผิดหน้าที่เอา ข้อสอบอาจหลอกให้มาปลดอำนาจศาลไม่มี

1152 การประชุมก็ดีในการจดทะเบียน กรรมการออก หนึ่งในสาม หลักการก็คือการเทียบเคียง ต้องมีประชุมทุกปีเงินปันผลหรืองบดุลทุกปีก็ต้องมีการประชุมทุกปี ก็ออก แต่ไม่มีผลหรอกเพราะก็ตั้งใหม่ตาม 1153 ปีแรก ปีสองจับฉลาก ปีสามก็ใครอยู่นานคนนั้นออก แต่ขีวิตจริงไม่มีผลเพราะว่า ว่าตั้งกลับมาได้

            มาตรา 1153/ 1 ดูมาตรา 826 ว่าไม่อยากเป็นตัวแทนเค้าแล้ว ก็คล้ายกันกรรมการไม่อยากเป็นผู้แทนเค้าแล้วก็ทำหนังสือลาออกก็ได้ วรรคสองก็บอกว่าให้แจ้งไปนายทะเบียนก็ได้ เพราะต้องการที่จะยันคนนอกก็ได้

            มาตรา 1154 ถ้ากรรมการ ล้มละลาย ไร้ความสามารถ กรรมการล้มละลาย จพทไม่มาเป็นกรรมการแทนนะครับ 4991/2533

            มันเกิดเรื่อง 310/2510 ก็คือกรรมการเผด็จการครับไม่ยอมออกครับ คือ กรรมการคนหนึ่งตายไปแล้วเจ็ดปี แล้วจะมาตั้งแทน คนนั้นไม่มีอำนาจแทนนะครับ แพ้ประเด็นปลดไม่ได้ แต่ไม่แพ้เครื่องการตั้งไม่ชอบ

            มาตรา 1157 เรื่องการจดกรรมการใหม่ ไม่ชอบ

            นี่เป็นที่มาที่ไปที่ว่าต้องคัดหนังสือรับรองวันนั้นตอนเช้าเลยนะครับ ถ้าไปทำกิจกรรมอะไร ที่ดินก็เอาหนังสือรับรองไม่เกินเดือน

            มาตรา 1160  เรื่องการประชุม ชีวิตจริงกรรมการบริษัทชีวิตจริงคนเดียวก็เป็นองค์ประชุมก็ได้

            มติประชุมก็คือ เสียงข้างมากนะครับ แล้วถ้าไม่ได้เสียงข้างมาก ก็ประธานกรรมการก็ได้เปรียบคือได้เสียงอีกเสียงหนึ่ง

            เรื่องการแต่งกรรมการ 1166 เป็นการแต่งตั้งที่คุ้มครองบุคคลภายนอก การแต่งตั้งกรรมการ ไม่ว่าทำอย่างไร คนนอกได้รับการคุ้มครอง จะองค์ประชุมขาดหรืออย่างไรไม่สนครับ คุ้มครองบุคคลภายนอก

            มาตรา 1167 เป็นหัวใจ ว่าให้นำเรืองตัวการตัวแทนมาใช้โดยอนุโลม

            แต่เวลาตอบข้อสอบต้องโยงให้ได้นะครับ อ้างหลักกฎหมายให้ได้

เรื่องอำนาจกรรมการมีสามเรื่องคือ ถ้ากรรมการทำนอกขอบวัตถุประสงค์ ไม่ผูกพัน ให้สัตยาบรรณก็ไม่ได้

            ถ้ากรรมการทำเกินขอบอำนาจที่อยู่ในข้อบังคับ อย่างนี้ให้สัตยาบรรณได้

            ก็หลักตัวการตัวแทน ตัวการทำได้ก็สัตยาบรรรณได้ ก็เท่านี้เองดูฏีกาก็ไม่หนี้ไปจากนี้ ก็อยู่แค่ 1167 จะใช้โยงกับ 820 821  อะไรก็ว่ากันไป

            1213 /2499 ในหนังสือรับรองไม่ได้เขียนว่ากู้ได้หรือไม่ได้ เงินหน่ะ ก็ถามว่าการกู้เงินเช่นนี้นอกกรอบไหม ถือว่าเป็นยืนยันหลักว่าเป็นวัตถุประสงค์โดยปริยาย

            1168 1169 1170 ถ้าออกออกเป็นชุดครับ เป็นการวางหลักว่ากรรมการมีหน้าที่ขนาดไหนในการดูแลกิจการบริษัท ก็เอามาตรฐานผู้ประกอบค้าขายมาระมัดระวัง ก็เอาหลักวิญญูชนมาใช้ ว่า

.2191/2541 คำพิพากษาฉบับนี้ทำให้กรรมการ สถาบันการเงินสะดุงได้เลย ครับ  คุณเป็นกรรมการเป็นเสียงข้างมากขึ้นเงินเดือนตัวเองก็ได้ กฎหมายบริษัทเป็นกฎหมายที่แปลกที่ตั้งเพื่อให้ทำการค้า

ทีนี้คำพิพากษานี้ บอกว่ากรรมการทีธนาคารที่ล้ม ปล่อยหนึ้เงินกู้เสียหายมหาศาล คำว่าการใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างผู้ประกอบกิจการสถาบันการเงินควรทำหรือไม่ ฏีกานี้เจ้าหนี้ ไปไล่เบี้ยเอาจากกรรมการ  

ลาออกแล้วอายุความเท่าไหร่ อายุความใช้ตัวการตัวแทนไหม ก็รับผิดคล้ายหมอ คนไข้ ลูกความ ทนายความ

            ก็วางหลักว่า ถ้าเป็นธนาคารก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างผู้ประกอบกิจการนั้นๆ ตามมาตรา 1168

            วรรคสองไม่มีอะไรเรื่องบัญชี

ที่ประชุมใหญ่ใหญ่กว่ากรรมการ นะครับ

คราวหน้าเรื่องความรับผิดของกรรมการ นะครับ

เฉลย

            ตอบข้อ1. ในการจัดการกิจการของบริษัทนั้น กรรมการมีหน้าที่จะต้องใช้ความเอื้อเฟื้อระมัดระวังอย่างบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวัง

                                    การที่กรรมการขายที่ดินต่ำกว่าราคาตลาดมากโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จึงทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท กรรมการจึงต้องรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหายต่อบริษัทฐานไม่ใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวัง

                                    เมื่อบริษัทไม่ฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นจึงสามารถฟ้องให้รับผิดในฐานกรรมการทำผิดหน้าที่ได้

ตอบข้อ2. เมื่อบริษัทจดทะเบียนแล้ว ถือว่าบุคคลมีสิทธิหน้าที่ต่างหากจากผู้ถือหุ้น กรรมการเท่านั้นมีอำนาจจัดการทำหน้าที่แทนบริษัท

เมื่อนายเอกเป็นผู้ถือหุ้นไม่ใช่กรรมการ จึงไม่มีอำนาจฟ้องนายสี่บุคคลภายนอกเพื่อขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะได้

ตอบข้อ3.

   การที่ผู้ถือหุ้นบริษัทสยามจำกัดลงมติพิเศษให้เพิ่มทุนโดยเสนอขายหุ้นให้นายหนึ่งคนเดียวนั้นกระทำไม่ได้ เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1222 ซึ่งบัญญัติว่า บรรดาหุ้นที่ออกใหม่นั้นต้องเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งหลายตามส่วนจำนวนหุ้นซึ่งเขาถืออยู่  มติพิเศษของผู้ถือหุ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ตอบข้อ4.

 

ส่วนมติที่ลงมติเสนอขายในราคาหุ้นละ 90 บาทต่อหุ้นก็กระทำไม่ได้ เพราะต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตั้งไว้ จึงขัดต่อมาตรา 1105 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติห้ามมิให้ออกขายหุ้นในราคาต่ำไปกว่ามูลค่าของหุ้นที่ตั้งไว้ มติพิเศษของผู้ถือหุ้นไม่ชอบด้วยกฏหมาย

Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages