...ใบอนุญาตทนายความ...
สำหรับการที่ใครสักคนจะเป็น ทนายความ ได้นั้น มีอยู่ 2 วิธี คือ
- หนึ่ง : สอบผ่านหลักสูตรการอบรมวิชาว่าความของสภาทนายความ
(เรียกว่า ตั๋วรุ่น เพราะจะเปิดสอบเป็นรุ่นๆไป) หรือ
- สอง : สอบผ่านการทดสอบผู้ฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความ ครบ 1
ปี (เรียกว่า ตั๋วปี เพราะต้องฝึกหัดงานครบ 1 ปี
จึงจะไปขอรับการทดสอบได้) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นตั๋วรุ่น หรือตั๋วปีนั้น
ต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นในการสมัคร ดังนี้ คือ
1. มีสัญชาติไทย
2. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์จากสถาบันที่สภาทนายความอนุมัติ
3. ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็นผู้ได้กระทำการใด
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต
4. ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
5. ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
....จากนั้น ต้องไปสมัครกับสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความ แห่งสภาทนายความ ดังนี้
1. ตั๋วปี ผู้สมัครต้องฝึกงานในสำนักงานทนายความ ครบ 1 ปี
แล้วไปลงทะเบียนสอบ ทั้งนี้
ผู้สมัครต้องแจ้งต่อสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความก่อนที่จะฝึก
ว่าจะฝึกที่สำนักงานใด ถ้าสอบผ่านแล้ว ก็จะมีการสอบสัมภาษณ์ ถ้าสอบผ่าน
และได้รับการอบรมจริยธรรมและมารยาททนายความแล้ว
ก็สามารถยื่นขอจดทะเบียนรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความกับสภาทนายความได้
2. ตั๋วรุ่น
ผู้สมัครต้องสมัครอบรมวิชาว่าความกับสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความ
ซึ่งสำนักอบรมจะเปิดเป็นรุ่นๆไป รายละเอียดติดตามได้ที่ สภาทนายความ
http://www.lawyerscouncil.or.th ซึ่งช่วงแรกจะเป็นการอบรมภาคทฤษฎี 6
เดือน ถ้าสอบผ่านภาคทฤษฎี ก็จะได้ฝึกภาคปฏิบัติ อีก 6 เดือน
โดยฝึกกับสำนักงานทนายความที่เราแจ้งเอาไว้
หรือจะให้ทางสำนักอบรมหาสำนักงานทนายความให้ก็ได้ ถ้าสอบภาคปฏิบัติผ่าน
ก็จะต้องสอบสัมภาษณ์ ถ้าสอบผ่าน
และได้รับการอบรมจริยธรรมและมารยาททนายความแล้ว
ก็สามารถยื่นขอจดทะเบียนรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความกับสภาทนายความได้
....โดยทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วปี หรือตั๋วรุ่นนั้น
เมื่อสอบผ่านและได้จดทะเบียนรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความแล้ว
ล้วนแต่มีศักดิ์และสิทธิของการเป็นทนายความเท่าเทียมกันทุกประการ
*** การอบรมจริยธรรมและมรรยาททนายความ ***
ผู้เข้ารับการอบรมที่ผ่านการทดสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
จะต้องเข้ารับการอบรมจริยธรรมและมรรยาททนายความตามกำหนดวันที่สำนักฝึกอบรมฯ
ประกาศกำหนด ผู้ที่ผ่านการอบรมจริยธรรมและมรรยาททนายความดังกล่าวจึงจะถือว่าเป็นผู้ผ่านการอบรมวิชาว่าความ
และมีสิทธิ์ในการยื่นคำขอ จดทะเบียน
เพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความต่อไป
*** หลักฐานการยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ***
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
หรือบัตรประจำตัวของบุคคลซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตามกฎหมาย
ว่าด้วยบัตรประจำตัวประชาชน
- ใบรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ใบรับรองแพทย์)
- หลักฐานแสดงว่าสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
หรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์ หรือประกาศนียบัตรในวิชานิติศาสตร์
ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรืออนุปริญญาจากสถาบันการศึกษา
ซึ่งสภาทนายความเห็นว่ามีมาตรฐานการศึกษาที่ผู้ได้รับปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรควรเป็นทนายความได้
- หลักฐานแสดงว่าเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา
(ขอหนังสือรับรองจากเนติบัณฑิตยสภา) (ต้องเป็นสามัญสมาชิก
หรือวิสามัญสมาชิก ของเนติบัณฑิตยสภาเท่านั้น)
- หลักฐานแสดงว่าเคยเป็นทนายความ
หรือเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา ตุลาการศาลทหาร พนักงานอัยการ
อัยการทหาร หรือทนายความตามกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร
หรือหลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมมรรยาททนายความ หลักปฏิบัติ
เบื้องต้นในการว่าความและการประกอบอาชีพทางกฎหมายตามข้อบังคับสภาทนายความ
หรือหลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
- กรณีที่เคยรับราชการ ต้องแนบหลักฐานคำสั่งเกษียณอายุราชการ
หรือคำสั่งลาออกจากราชการ
- กรณีที่เคยต้องคำพิพากษาหรือถูกลงโทษทางวินัย
ต้องแนบสำเนาคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งลงโทษ
- รูปถ่ายครึ่งตัว หน้าตรง สวมครุยเนติบัณฑิต (ถ่ายไว้ไม่เกิน
6 เดือน) รูปสีหรือขาวดำ ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป และขนาด 2 นิ้ว หรือ 2
นิ้วครึ่ง จำนวน 3 รูป
*** สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
รวมทั้งค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการดำเนินการต่างๆนั้น
กรุณาสอบถามได้ที่ สภาทนายความ
http://www.lawyerscouncil.or.th ***