++ ทบทวนคำพิพากษาฎีกา 1280/2555 : ซึ่งวางหลักไว้น่าสนใจ !! ++

752 views
Skip to first unread message

arunarun chitt

unread,
Aug 26, 2013, 10:48:30 AM8/26/13
to law...@googlegroups.com

         คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2555

        ข้อเท็จจริง
       1. โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 336 ทวิ ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 กรุงเทพมหานคร และหมายเลขทะเบียน 93-3231 กรุงเทพมหานคร
          1.1 โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น แต่ถ้าคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องนั้นจะทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตาม ป.วิ.อ. มาตรา 163, 164
          1.2 ถ้าฟ้องที่ไม่ถูกต้องมาแต่ต้น เช่น ฟ้องที่บรรยายไม่ครบองค์ประกอบความผิดจะขอแก้ฟ้องให้ครบองค์ประกอบความผิดไม่ได้ (ฎีกา 1062/2504)
          1.3 ในชั้นตรวจฟ้อง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 161 ศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ให้ครบองค์ประกอบความผิดไม่ได้ (ฎีกา 126/2492)
          1.4 ในทางปฏิบัติเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้อง ศาลจะสั่งคำร้องทำนองว่า มีเหตุอันสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ได้ตามขอ สำเนาให้จำเลยหรือสั่งทำนองว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ไม่อนุญาต
          1.5 คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196 จะอุทธรณ์ทันทีไม่ได้ (ฎีกา 575/2494)

       2. ศาลชั้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตามขั้นตอนแล้วมีคำพิพาษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335(1)(7) วรรคสอง มาตรา 336 ทวิ ประกอบมาตรา 80,83 ลงโทษฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะจำคุกคนละ 4 ปี ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 และหมายเลขทะเบียน 93-3231 กรุงเทพมหานคร ของกลาง
          2.1 ผลของคำพิพาษาศาลชั้นต้นเช่นนี้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 ทวิ ในส่วนของโจทก์สามารถอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้เนื่องจากโทษจำคุกตามคำขอท้ายฟ้องเกินกว่า 3 ปี ส่วนข้อกฎหมายนั้นสามารถอุทธรณ์ได้อยู่แล้ว ในส่วนของจำเลยทั้งสองเมื่อศาลพิพากษาให้จำคุก ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 ทวิ จำเลยทั้งสองก็มีอำนาจอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน
          2.2 คดีนี้ โจทก์และจำเลยทั้งสอง อุทธรณ์

       3. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องจำเลยที่ 1 แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างฎีกา ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 93-3231 กรุงเทพมหานคร ไม่ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 กรุงเทพมหานคร 
          3.1 ให้สังเกตว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างฎีกานั้นเป็นการสั่งขังโดยอาศัยอำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 ประกอบมาตรา 215

       4. คดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาได้พิจารณาพิพากษาตามประเด็นดังต่อไปนี้
          4.1 จำเลยที่ 2 วางแผนกับพวกหลอกว่าจ้างจำเลยที่ 1 นำรถยกไปยกรถยนต์ของผู้เสียหายไปส่งให้จำเลยที่ 2 เพื่อจำเลยที่ 2 จะยกรถยนต์ต่อไปยังจุดหมาย โดยจำเลยที่ 1 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเครื่องมือของคนร้าย จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการลักรถยนต์โดยใช้จำเลยที่ 1 เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของตน จำเลยที่ 1 จึงไม่ได้ร่วมกระทำผิด
          4.2 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าคนร้ายโทรศัพท์ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 นำรถยกไปยกรถยนต์ของผู้เสียหายไปส่งที่บริเวณอู่ซ่อมรถใกล้ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางบอน โดยมีจำเลยที่ 2 จะรอรับรถยนต์และจ่ายค่าจ้าง โดยจำเลยที่ 1 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเครื่องมือของคนร้าย เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำความผิดจึงริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 กรุงเทพมหานคร ที่จำเลยที่ 1 ใช้ยกรถยนต์ของผู้เสียหายไม่ได้
         4.3 ประเด็นต่อไปมีว่า ความผิดของจำเลยที่ 2 เป็นการลักทรัพย์สำเร็จหรือพยายามลักทรัพย์
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วเห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยกยกรถยนต์ของผู้เสียหายขยับออกไปจากที่จอดไม่ถึง 1 เมตร โดยส่วนหน้าของรถยนต์ของผู้เสียหายถูกยกขึ้นไปเกยบนคานของรถยกและมีโซ่คล้องรถยนต์ของผู้เสียหายผูกยึดติดกับรถยกของจำเลยที่ 1 พร้อมที่จะขับเคลื่อนพารถยนต์ของผู้เสียหายออกไปได้ทันที ถือว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 ใช้เป็นเครื่องมือได้เข้ายึดถือครอบครองรถยนต์ของผู้เสียหายโดยสมบูรณ์พร้อมที่จะเอาไปได้แล้ว จึงถือว่าจำเลยที่ 2 ได้เอาไปซึ่งรถยนต์ของผู้เสียหายอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ แม้จำเลยที่ 1 จะยังไม่ทันขับรถยกลากจูงรถยนต์ของผู้เสียหายออกไปก็ตาม หาใช่เป็นเพียงพยายามลักทรัพย์ไม่

      หมายเหตุ
      1. ในส่วนของจำเลยที่ 1 นั้น ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกของความผิด ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเจตนากระทำความผิดในคดีนี้ หรือกล่าวโดยสรุปก็คือ ไม่รู้ก็ไม่มีเจตนาเมื่อไม่มีเจตนาก็ไม่ต้องรับผิดในทางอาญา ตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคแรก ที่บัญญัติว่า บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา.....
      2. ตามตัวอย่างฎีกาข้างต้น น่าจะเป็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับผู้ว่าจ้างไม่ใช่เป็นตัวการลักทรัพย์ร่วมกับจำเลยที่ 1 สำหรับจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 1 นั้น ถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้กระทำผิดด้วยตนเองโดยทางอ้อมโดยใช้จำเลยที่ 1 เป็นเครื่องมือ
      3. ให้พิจารณาศึกษาเปรียบเทียบเพิ่มเติมในประเด็น ผู้กระทำผิดเองโดยอ้อมจากคำพิพากษาฎีกาต่อไปนี้

      ฎีกา 1013/2504
      ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยรู้ดีอยู่ก่อนแล้วว่าที่พิพาทเป็นของผู้เสียหาย จำเลยยังร่วมกันจ้างให้คนเข้าไปขุดดินในที่พิพาท และผู้รับจ้างจากจำเลยได้ขุดดินของผู้เสียหายจนเกิดเป็นบ่อ ทำให้ที่พิพาทเสียหายเช่นนี้ การกระทำของจำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,362 จำเลยจะเถียงว่ามูลกรณีเป็นคดีแพ่งมิใช่คดีอาญา ย่อมฟังไม่ขึ้น

      ฎีกา 2030/2537
      จำเลยใช้ให้เด็กหญิง ป. ไปรับยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนโดยเด็กหญิง ป. ไม่ทราบข้อเท็จจริง การที่เด็กหญิง ป. ครอบครองยาเสพติดดังกล่าวก็ถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองยาเสพติดนั่นเอง

      ฎีกา 3337/2547
      นายแดงสั่งให้นายดำเผาเอกสารของนายขาวอันเป็นความผิดฐานทำลายเอกสารของผู้อื่นตาม ป.อ. มาตรา 188 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่านายแดงไม่ใช่ผู้ใช้ตาม ป.อ. มาตรา 84 เพราะนายดำผู้ถูกใช้ไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดแต่เป็นกรณีที่นายแดงใช้นายดำเป็นเครื่องมือของนายแดงในการกระทำความผิดดังกล่าว ถือว่านายแดงเป็นผู้กระทำความผิดเองโดยอ้อม

      ฎีกา 5318/2549 

      จำเลยจ้างให้บุคคลที่ไม่รู้มาก่อนว่า ที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ให้นำรถไถไปไถที่ดินบริเวณดังกล่าว จึงไม่ใช่เป็นการใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดเพราะผู้ถูกใช้ไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดแต่เป็นการใช้บุคคลเหล่านั้นเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ถือว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดเองโดยอ้อม 

                                                                                                   Credit : รพี ๕๖//ทบทวนหลักกฎหมายกับ อ.ประยุทธ

..........................................................................................................................................................................

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

       ...คุณเคยมีปัญหาเหล่านี้หรืม่ 


      - เพิ่งจบปริญญาตรี ไม่รู้จะเริ่มต้นกับการเรียนเนติอย่างไร
      - 
สอบมาหลายครั้งแล้วไม่ผ่านซัที 47 , 48 , 49 คะแนนอยู่นี่หลายครั้งแล้ว เมื่อไหร่จะถึง 50 คะแนนซักที
    
  - อยู่ต่างจังหวัด ทำงานประจำไม่มีเวลาไปนั่งเรียนที่เนติฯ 
      - 
สมัครติวเนติทางไปรษณีย์ กว่าจดหมายจะมาถึงก็ไม่ทันสอบ
     
 - สมัครรับจองคำบรรยายเนติทางไปรษณีย์ 
กว่าจดหมายจะมาถึงก็ไมันสอบ
      - เดินทางไปเรียนหรือไปติวรถก็ด...กลับมาก็เหนื่อย
     
 - อยู่ต่างจังหวัดอยากมาเรียนที่ กทม. หรือมาติว...แต่ไม่สามารถมาเรีนหรือมาติวได้เพราะไกลและสถาบัติวก็อยู่หน้ารามกันหมด


      ....ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป....

.....................................................................................................................................................


ขอแนะนำ !!

รวมคำบรรยายเนติฯ (ภาคปกติ /ภาคค่ำ/ภาคทบทวนวันอาทิตย์) ภา 1/65 และ 2/65

++  กลุ่มวิชากฎหมายแพ่งและอาญา (ไฟล์เสียงคำบรรยายภาคปกติ, ภาคค่ำ และภาคทบทวนวันอาทิตย์)

  พร้อมไฟล์เอกสาร 

  - เอกสารสรุปคำบรรยายเนติ 1/65 

  -  เอกสารประกอบคำบรรยาย1/65 

  -  บทบรรณาธิการ 1/63-1/65 

  -  ธงคำตอบกลุ่มวิชากฎหมายแพ่งแลอาญา (สมัยที่ 56-65) 

  - พร้อม !! เคล็ดลัการอ่านหนังสือเพื่เตรียมสอบเนติฯ + ระเบียบการเรีนเนติฯ +เทคนิคและแนวการเขียนขอสอบการเตรียมพร้อมสอบเนติฯ/ู้ช่วยฯ/อัยกา  

++ กลุ่มวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความอาญา (ไฟล์เสียงคำบรรยายภาคปกติ, ภาคค่ำ และภาคทบทวนวันอาทิตย์) 

  พร้อมไฟล์เอกสาร 

 -  เอกสารสรุปคำบรรยายเนติ 2/65 

 -  เอกสารประกอบคำบรรยาย 2/65 

 -  บทบรรณาธิการ 2/63-2/65 

 -  ธงคำตอบกลุ่มวิชากฎหมายวิธีพิารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาควาอาญา (สมัยที่ 56-65) 

 -  พร้อม !! เคล็ดลัการอ่านหนังสือเพื่เตรียมสอบเนติฯ + ระเบียบการเรียนเนติฯ +เทคนิคและแนวการเขียนข้อสอบการเตรียมพร้อมสอบเนติฯ/ผู้ช่วยฯ/อัยกา

  ค่ารวบรวม ภาคละ 350.-บาท  (DVD 4 แผ่น) (ส่ง EMS ฟรี !! + แถมฟรี !! แผ่นรองเม้าท์) 

   หมายเหตุ  สั่งซื้อทั้ง 2  ค่ารวมรวมราคาพิเศษ 650.- บา  (ส่ง EMS ฟรี !! + แถมฟรี !! แผ่นรองเม้าท์ + CD แบบร่างสัญญามากกว่า 400 แบบ (file word) + แบบฟอร์มศาลแบบฟอร์มเอกสารงานบุคคล,เอกสารงานบัญชีและภาษี) 

   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ดต่อ ตุ้ย มือถือ 085-801-0725,E-mail : siripit...@gmail.com

 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

  ข้อดี :

  - คุณไม่ต้องเสียเวลาไปหารวบรวมเอกสาร หรือ Download เอกสารเอง

  -  มีข้อมูลครบถ้วนตรงตามที่เรียน เช่น สรุปแนวการสอบปีที่ผ่านมา, สถิติมาตราที่ออกสอบ,ธงคำตอบ, บทบรรณาธิการ, เสียงตัวบท, เคล็ดลับการสอบ  เป็นต้น                                                                          

  -  ข้อมูลรวบรวมอยู่ในแผ่น DVD คุณสามารถนำไป Copy ใส่เครื่องเล่นอย่างอื่น เช่น Frash Drive, โทรศัพท์, CD ได้ง่าย

  - ไฟล์เอกสาร คุณสามารถเลือก Print ได้ตามหัวข้อที่ต้องการ (ได้แยกไว้เป็นรายข้อของแต่ละเรื่องที่จะสอบ)

  -  ข้อมูลทั้งหมดสามารถเก็บรวมรวมไว้ใช้ได้ตลอด เพราะคุณต้องมีการสอบตลอด คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อเอกสารหรือตำราใหม่ (เหมาะสำหรับท่านที่จะต้องสอบผู้ช่วยฯ, อัยการ)

  -  ค่ารวบรวมราคาถูก (350.-บาท/1 ภาค) คุณไม่ต้องเสียเวลาหารวบรวมเอกสารเอง, ไม่ต้องเสียค่าเดินทางเพื่อมารวบรวมเอกสารที่เนติฯ, อีกทั้งมีการจัดส่ง EMS ให้ฟรี !!


               ไม่เก่ง..แต่พยายาม  เจ๋ง ! กว่า  เก่ง....แต่ขี้เกียจ

                                         ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็ันทุกคะคับ...


การเสียภาษีรถยนต์.jpg
การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง.jpg
Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages