คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2555
ข้อเท็จจริง
1. โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้อง
ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 336 ทวิ
ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 กรุงเทพมหานคร
และหมายเลขทะเบียน 93-3231 กรุงเทพมหานคร
1.1 โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
แต่ถ้าคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องนั้นจะทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี
ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตาม ป.วิ.อ. มาตรา 163, 164
1.2 ถ้าฟ้องที่ไม่ถูกต้องมาแต่ต้น
เช่น
ฟ้องที่บรรยายไม่ครบองค์ประกอบความผิดจะขอแก้ฟ้องให้ครบองค์ประกอบความผิดไม่ได้
(ฎีกา 1062/2504)
1.3 ในชั้นตรวจฟ้อง ตาม ป.วิ.อ.
มาตรา 161 ศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ให้ครบองค์ประกอบความผิดไม่ได้
(ฎีกา 126/2492)
1.4 ในทางปฏิบัติเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้อง
ศาลจะสั่งคำร้องทำนองว่า “มีเหตุอันสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ได้ตามขอ
สำเนาให้จำเลย” หรือสั่งทำนองว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี
ไม่อนุญาต”
1.5 คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น
เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196 จะอุทธรณ์ทันทีไม่ได้ (ฎีกา 575/2494)
2. ศาลชั้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตามขั้นตอนแล้วมีคำพิพาษาว่า
จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335(1)(7) วรรคสอง มาตรา
336 ทวิ ประกอบมาตรา 80,83 ลงโทษฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะจำคุกคนละ
4 ปี ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 และหมายเลขทะเบียน
93-3231 กรุงเทพมหานคร ของกลาง
2.1 ผลของคำพิพาษาศาลชั้นต้นเช่นนี้
ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 ทวิ ในส่วนของโจทก์สามารถอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้เนื่องจากโทษจำคุกตามคำขอท้ายฟ้องเกินกว่า
3 ปี ส่วนข้อกฎหมายนั้นสามารถอุทธรณ์ได้อยู่แล้ว
ในส่วนของจำเลยทั้งสองเมื่อศาลพิพากษาให้จำคุก ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 ทวิ จำเลยทั้งสองก็มีอำนาจอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน
2.2 คดีนี้ โจทก์และจำเลยทั้งสอง
อุทธรณ์
3. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า
ยกฟ้องจำเลยที่ 1 แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างฎีกา
ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 93-3231 กรุงเทพมหานคร
ไม่ริบรถยกหมายเลขทะเบียน 85-7826 กรุงเทพมหานคร
3.1 ให้สังเกตว่า คดีนี้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 แต่ให้ขังจำเลยที่ 1
ไว้ในระหว่างฎีกานั้นเป็นการสั่งขังโดยอาศัยอำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185
ประกอบมาตรา 215
4. คดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา
ซึ่งศาลฎีกาได้พิจารณาพิพากษาตามประเด็นดังต่อไปนี้
4.1 จำเลยที่ 2 วางแผนกับพวกหลอกว่าจ้างจำเลยที่ 1 นำรถยกไปยกรถยนต์ของผู้เสียหายไปส่งให้จำเลยที่
2 เพื่อจำเลยที่ 2 จะยกรถยนต์ต่อไปยังจุดหมาย
โดยจำเลยที่ 1 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเครื่องมือของคนร้าย
จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการลักรถยนต์โดยใช้จำเลยที่ 1
เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของตน จำเลยที่ 1 จึงไม่ได้ร่วมกระทำผิด
4.2 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าคนร้ายโทรศัพท์ว่าจ้างให้จำเลยที่
1 นำรถยกไปยกรถยนต์ของผู้เสียหายไปส่งที่บริเวณอู่ซ่อมรถใกล้ธนาคารกสิกรไทย
สาขาบางบอน โดยมีจำเลยที่ 2 จะรอรับรถยนต์และจ่ายค่าจ้าง
โดยจำเลยที่ 1 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเครื่องมือของคนร้าย
เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำความผิดจึงริบรถยกหมายเลขทะเบียน
85-7826 กรุงเทพมหานคร ที่จำเลยที่ 1 ใช้ยกรถยนต์ของผู้เสียหายไม่ได้
4.3 ประเด็นต่อไปมีว่า
ความผิดของจำเลยที่ 2 เป็นการลักทรัพย์สำเร็จหรือพยายามลักทรัพย์
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วเห็นว่า
การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยกยกรถยนต์ของผู้เสียหายขยับออกไปจากที่จอดไม่ถึง
1 เมตร
โดยส่วนหน้าของรถยนต์ของผู้เสียหายถูกยกขึ้นไปเกยบนคานของรถยกและมีโซ่คล้องรถยนต์ของผู้เสียหายผูกยึดติดกับรถยกของจำเลยที่
1 พร้อมที่จะขับเคลื่อนพารถยนต์ของผู้เสียหายออกไปได้ทันที
ถือว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 ใช้เป็นเครื่องมือได้เข้ายึดถือครอบครองรถยนต์ของผู้เสียหายโดยสมบูรณ์พร้อมที่จะเอาไปได้แล้ว
จึงถือว่าจำเลยที่ 2 ได้เอาไปซึ่งรถยนต์ของผู้เสียหายอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ
แม้จำเลยที่ 1 จะยังไม่ทันขับรถยกลากจูงรถยนต์ของผู้เสียหายออกไปก็ตาม
หาใช่เป็นเพียงพยายามลักทรัพย์ไม่
หมายเหตุ
1. ในส่วนของจำเลยที่ 1 นั้น ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกของความผิด
ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเจตนากระทำความผิดในคดีนี้
หรือกล่าวโดยสรุปก็คือ “ไม่รู้ก็ไม่มีเจตนา” เมื่อไม่มีเจตนาก็ไม่ต้องรับผิดในทางอาญา ตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคแรก ที่บัญญัติว่า “บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา.....”
2. ตามตัวอย่างฎีกาข้างต้น
น่าจะเป็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับผู้ว่าจ้างไม่ใช่เป็นตัวการลักทรัพย์ร่วมกับจำเลยที่
1 สำหรับจำเลยที่ 2 ในคดีนี้
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 1 นั้น ถือว่าจำเลยที่ 2
เป็นผู้กระทำผิดด้วยตนเองโดยทางอ้อมโดยใช้จำเลยที่ 1 เป็นเครื่องมือ
3. ให้พิจารณาศึกษาเปรียบเทียบเพิ่มเติมในประเด็น
“ผู้กระทำผิดเองโดยอ้อม” จากคำพิพากษาฎีกาต่อไปนี้
ฎีกา 1013/2504
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยรู้ดีอยู่ก่อนแล้วว่าที่พิพาทเป็นของผู้เสียหาย
จำเลยยังร่วมกันจ้างให้คนเข้าไปขุดดินในที่พิพาท
และผู้รับจ้างจากจำเลยได้ขุดดินของผู้เสียหายจนเกิดเป็นบ่อ
ทำให้ที่พิพาทเสียหายเช่นนี้ การกระทำของจำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 358,362 จำเลยจะเถียงว่ามูลกรณีเป็นคดีแพ่งมิใช่คดีอาญา
ย่อมฟังไม่ขึ้น
ฎีกา 2030/2537
จำเลยใช้ให้เด็กหญิง ป.
ไปรับยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนโดยเด็กหญิง ป. ไม่ทราบข้อเท็จจริง การที่เด็กหญิง ป.
ครอบครองยาเสพติดดังกล่าวก็ถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองยาเสพติดนั่นเอง
ฎีกา 3337/2547
นายแดงสั่งให้นายดำเผาเอกสารของนายขาวอันเป็นความผิดฐานทำลายเอกสารของผู้อื่นตาม
ป.อ. มาตรา 188 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่านายแดงไม่ใช่ผู้ใช้ตาม
ป.อ. มาตรา 84 เพราะนายดำผู้ถูกใช้ไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดแต่เป็นกรณีที่นายแดงใช้นายดำเป็นเครื่องมือของนายแดงในการกระทำความผิดดังกล่าว
ถือว่านายแดงเป็นผู้กระทำความผิดเองโดยอ้อม
ฎีกา 5318/2549
จำเลยจ้างให้บุคคลที่ไม่รู้มาก่อนว่า ที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ให้นำรถไถไปไถที่ดินบริเวณดังกล่าว จึงไม่ใช่เป็นการใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดเพราะผู้ถูกใช้ไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดแต่เป็นการใช้บุคคลเหล่านั้นเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ถือว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดเองโดยอ้อม
Credit : รพี ๕๖//ทบทวนหลักกฎหมายกับ อ.ประยุทธ
..........................................................................................................................................................................
...คุณเคยมีปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ?
- เพิ่งจบปริญญาตรี ไม่รู้จะเริ่มต้นกับการเรียนเนติอย่างไร
- สอบมาหลายครั้งแล้วไม่ผ่านซักที 47 , 48 , 49 คะแนนอยู่นี่หลายครั้งแล้ว เมื่อไหร่จะถึง 50 คะแนนซักที
- อยู่ต่างจังหวัด ทำงานประจำไม่มีเวลาไปนั่งเรียนที่เนติฯ
- สมัครติวเนติทางไปรษณีย์ กว่าจดหมายจะมาถึงก็ไม่ทันสอบ
- สมัครรับจองคำบรรยายเนติทางไปรษณีย์ กว่าจดหมายจะมาถึงก็ไม่ทันสอบ
- เดินทางไปเรียนหรือไปติวรถก็ติด...กลับมาก็เหนื่อย
- อยู่ต่างจังหวัดอยากมาเรียนที่ กทม. หรือมาติว...แต่ไม่สามารถมาเรียนหรือมาติวได้เพราะไกลและสถาบันติวก็อยู่หน้ารามกันหมด
....ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป....
.....................................................................................................................................................
ขอแนะนำ !!
รวมคำบรรยายเนติฯ (ภาคปกติ /ภาคค่ำ/ภาคทบทวนวันอาทิตย์) ภาค 1/65 และ 2/65
++ กลุ่มวิชากฎหมายแพ่งและอาญา (ไฟล์เสียงคำบรรยายภาคปกติ, ภาคค่ำ และภาคทบทวนวันอาทิตย์)
พร้อมไฟล์เอกสาร
- เอกสารสรุปคำบรรยายเนติฯ 1/65
- เอกสารประกอบคำบรรยาย1/65
- บทบรรณาธิการ 1/63-1/65
- ธงคำตอบกลุ่มวิชากฎหมายแพ่งและอาญา (สมัยที่ 56-65)
- พร้อม !! เคล็ดลับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเนติฯ + ระเบียบการเรียนเนติฯ +เทคนิคและแนวการเขียนข้อสอบ, การเตรียมพร้อมสอบเนติฯ/ผู้ช่วยฯ/อัยการ
++ กลุ่มวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความอาญา (ไฟล์เสียงคำบรรยายภาคปกติ, ภาคค่ำ และภาคทบทวนวันอาทิตย์)
พร้อมไฟล์เอกสาร
- เอกสารสรุปคำบรรยายเนติฯ 2/65
- เอกสารประกอบคำบรรยาย 2/65
- บทบรรณาธิการ 2/63-2/65
- ธงคำตอบกลุ่มวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความอาญา (สมัยที่ 56-65)
- พร้อม !! เคล็ดลับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเนติฯ + ระเบียบการเรียนเนติฯ +เทคนิคและแนวการเขียนข้อสอบ, การเตรียมพร้อมสอบเนติฯ/ผู้ช่วยฯ/อัยการ
ค่ารวบรวม ภาคละ 350.-บาท (DVD 4 แผ่น) (ส่ง EMS ฟรี !! + แถมฟรี !! แผ่นรองเม้าท์)
หมายเหตุ : สั่งซื้อทั้ง 2 ภาค ค่ารวมรวมราคาพิเศษ 650.- บาท (ส่ง EMS ฟรี !! + แถมฟรี !! แผ่นรองเม้าท์ + CD แบบร่างสัญญามากกว่า 400 แบบ (file word) + แบบฟอร์มศาล, แบบฟอร์มเอกสารงานบุคคล,เอกสารงานบัญชีและภาษี)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ ตุ้ย มือถือ 085-801-0725,E-mail : siripit...@gmail.com
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อดี :
- คุณไม่ต้องเสียเวลาไปหารวบรวมเอกสาร หรือ Download เอกสารเอง
- มีข้อมูลครบถ้วนตรงตามที่เรียน เช่น สรุปแนวการสอบปีที่ผ่านมา, สถิติมาตราที่ออกสอบ,ธงคำตอบ, บทบรรณาธิการ, เสียงตัวบท, เคล็ดลับการสอบ เป็นต้น
- ข้อมูลรวบรวมอยู่ในแผ่น DVD คุณสามารถนำไป Copy ใส่เครื่องเล่นอย่างอื่น เช่น Frash Drive, โทรศัพท์, CD ได้ง่าย
- ไฟล์เอกสาร คุณสามารถเลือก Print ได้ตามหัวข้อที่ต้องการ (ได้แยกไว้เป็นรายข้อของแต่ละเรื่องที่จะสอบ)
- ข้อมูลทั้งหมดสามารถเก็บรวมรวมไว้ใช้ได้ตลอด เพราะคุณต้องมีการสอบตลอด คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อเอกสารหรือตำราใหม่ (เหมาะสำหรับท่านที่จะต้องสอบผู้ช่วยฯ, อัยการ)
- ค่ารวบรวมราคาถูก (350.-บาท/1 ภาค) คุณไม่ต้องเสียเวลาหารวบรวมเอกสารเอง, ไม่ต้องเสียค่าเดินทางเพื่อมารวบรวมเอกสารที่เนติฯ, อีกทั้งมีการจัดส่ง EMS ให้ฟรี !!
ไม่เก่ง..แต่พยายาม เจ๋ง ! กว่า เก่ง....แต่ขี้เกียจ
ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จกันทุกคนนะคับ...