เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นนี้เกิดกับน้องชายของผมเอง รับรองว่าความประพฤติของน้องชายผมไม่ได้เป็นคนขี้โขมย ขอร้องวานพวกเราช่วยกันส่งต่อให้หลาย ๆ คนรับรู้เรื่องราว เพื่อไม่ให้คนดี ๆ ตกเป็นเหยื่อของความเลวทรามหาแพะมารับความผิด เท่าที่รู้มาสินค้าในห้าง ฯ นี้ หายบ่อยเป็นจำนวนมาก (
ก็พนักงานในนั้นแหละที่เป็นคนโขมย ยังเคยมีพนักงานโขมยของในห้าง ฯ แห่งนี้แวนำมาขายต่อให้ผมเลย แต่ผมไม่ได้ซื้อ เพราะว่าไม่ชอบสนับสนุนให้คนโขมยของ ) ผมเพิ่งจะทราบเรื่อง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553 เวลา 14.00 น บ้านของผมอยู่ละแวกนั้น จึงทราบว่ามีโขมยอยู่ในคราบของพนักงานโจรในห้างแห่งนี้ บ้านของผมเกลียดคนขี้โขมยอยู่แล้ว
ปล. ครอบครัวผมทุกคนมีอนาคตไม่เดือดร้อนเรื่องการเงินครับ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาอนาคตไปแลกกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ณัฐพงศ์ สรวงสำราญ (ตุ้ยครับ)
จาก: worawee pongsupa <wora...@hotmail.com> เรื่อง: มีประสบการณ์จริง อันเลวร้ายจาก คาร์ฟูร์ อิสรภาพมาเล่าให้ฟังครับ ถึง: "sum wat" <beem...@hotmail.com>, "โจ้" <sanoo...@windowslive.com>, "ไก่" <me_...@hotmail.com>, "แอม" <tanya...@hotmail.com>, "tippawan keaysod" <fai...@hotmail.com>, "กอล์ฟ เคแอนด์พี" <chom...@ymail.com>, "ไอซ์" <chi2m...@hotmail.com>, "กร" <pongsak...@hotmail.com>, "กอล์ฟ" <atta...@hotmail.com>, "คุณปิยพล" <piy...@hotmail.com>, "จิ๊บ" <jib...@gmail.com>, "จิ๋ว" <wiwat...@hotmail.com>,
"ชิด" <chid...@hotmail.com>, "ดา" <panat...@hotmail.com>, "ดาว" <rinn...@hotmail.com>, "ตอง" <zapit...@hotmail.com>, "ต๋อย" <jojo...@hotmail.com>, "ทอม" <pibul...@hotmail.com>, "ที่รัก" <joopj...@hotmail.com>, "น้อย" <bany...@hotmail.com>, "นุ้ย" <moo...@hotmail.com>, "ปิ๊ก" <pik_...@yahoo.co.th>, "พี่เปี๊ยก" <s_p...@yahoo.com>, "พี่เอ้" <dara...@hotmail.com>, "พี่เอ" <sa...@viva.co.th>, "พี่โย" <rat...@apcrice.com>, "พี่โหน่ง" <rujir...@gmail.com>, "พี่กั่ง" <kri...@hotmail.com>, "พี่ตวง" <s_nua...@yahoo.com>, "พี่ต้อม" <tom68...@hotmail.com>, "พี่ตุ้ย" <natap...@yahoo.co.th>, "พี่น้อย"
<tuchsa...@yahoo.co.th>, "พี่อุ๊" <natn...@yahoo.com>, "พี่ฮุ้ง" <kandp...@yahoo.com>, "มง" <mrco...@hotmail.com>, "รุจ" <niru...@hotmail.com>, "อ๊อฟ จิว" <patti...@hotmail.com>, "อ๊อฟ" <off_...@yahoo.co.th> วันที่: วันจันทร์, 19 กรกฎาคม 2010 07:20 น.
มีประสบการณ์จริงจะมานำเสนอ และเตือนบุคคลทั่วไปให้ได้รับทราบ จาก(นาย วรวีร์ พงษ์สุภา)รบกวนช่วยส่งต่อด้วยนะครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฏาคม 2553 พี่ชาย พี่สะใภ้ และหลานสาวของผมได้เข้าไปซื้อของที่ ห้างคาร์ฟูร์ สาขาอิสรภาพ
โดยทำการเลือกซื้อของต่างๆ จนกระทั่งหลานสาวผม ได้เลือกซื้อเสื้อชั้นใน โดยได้เลือกซื้อสีดำ แล้วนำมาใส่ในรถเข็น
พอพี่ชายผมเห็นจึงบอกกับหลานสาวว่าไม่ให้ซื้อสีดำมาใส่เนื่องจากไม่สุภาพ ดังนั้นพี่ สะใภ้ของผมจึงได้หยิบเสื้อชั้นในสีดำวางไว้บนชั้นวางของ
เมื่อซื้อของเสร็จจึงออกมาคิดเงินตามปกติ เมื่อคิดเงิน เสร็จ ได้มีการ์ดของทางห้าง เดินเข้ามาแจ้งพี่ชายผมว่าทางพนักงานแจ้งว่าพี่ชายของผมโขมยเสื้อชั้นในมา พี่ ชายของผมก็ปฏิเสธว่าไม่ได้หยิบออกมาโดยได้วางไว้ที่ชั้นวางสินค้าแล้ว แต่ทางการ์ดเชิญตัวพี่ชายของผมเข้า ไปในห้องสอบสวนของห้าง(พี่ชายของผมเป็นเจ้าของบริษัทฯ และวันที่ไปทั้งสามคนก็ถือว่าแต่งตัวดีมาก) โดย ได้ทำการตรวจค้นกระเป๋า ถุงใส่ของและขอดูใบเสร็จ โดยที่ทางพี่ชายของก้ให้ความร่วมมือในการตรวจค้น ใน ขณะที่ทำการตรวจค้นมีเจ้าหน้าที่ขาย(ผู้หญิง)
ของทางห้างที่แจ้งทางการ์ดได้เข้ามาชี้ตัว(พร้อมขึ้นเสียงข่ม ขู่)ว่าได้โขมยของไป หลังจากการตรวจค้นไม่เจอของที่ทางพนักงานขายแจ้งว่าได้โขมยมา ทางผู้จัดการห้อง (ไม่แน่ใจว่าใช่รึป่าว) ก็ได้ทำการเข้ามาขอโทษที่ทำการตรวจค้น แต่ทางพี่ชายผมอยากให้ทางพนักงานขายที่ มาชี้ตัว ได้ขอโทษในความเข้าใจผิดของห้าง แต่พนักงานไม่ยอมขอโทษ พร้อมทั้ง(ขึ้นเสียงบอกว่าเห็นว่าโขมย ไป
จนมีการกระทบกระทั่งกันเิกิดขึ้น และทางห้างได้กันตัวพนักงานขายออกไปโดยไม่ได้มีการกล่าวคำขอโทษ พี่ ชายผมจึงไม่ยอมพร้อมทั้งบอกกับทางผู้ดูแลห้างว่าขอให้พนักงนขายคนนั้นมาขอโทษ
ทางผู้ดูแลห้างได้แจ้งว่า ให้พนักงานคนนั้นกลับบ้านไปแล้ว พี่ชายผมจึงเดินตามหาภายในห้างแต่ไม่เจอจึงกลับบ้าน พอระมาณสัก 5 โมง เย็นพี่ชายผมจึงขับรถมอเตอร์ไซด์ เข้าไปตามหาพนักงานคนดังกล่าว และได้เจอพนักงานคนดังกล่าวพร้อมกับ พนักงานคนอื่น เล่นกีฬากันอยู่ บริเวณข้างๆห้างฯ และได้เข้าไปหาพนักงานคนดังกล่าวเพื่อให้พนักงานคนดัง กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เค้าเข้าใจผิด
แต่ทางพนักงานคนดังกล่าวไม่ยอมขอโทษพร้อมทั้งบอกว่าถ้าจะให้ขอโทษต้อง ให้พี่ชายของผมเอาของไปเก็บที่ชั้นของจึงจะขอโทษ
และได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนโดยที่ทางพี่ชายของผมได้เข้า ไปกับน้องชายเพียงสองคน (แต่พนักงานห้างเป็นสิบ)ได้ทำร้ายร่างกายพี่ชายของผม หลังจากนั้นพี่ชายของผม ก็ได้กลับมาที่บ้าน เมื่อที่บ้านทราบเรื่องจึงได้รวมตัวกันเพื่อกลับไปที่ห้างอีกครั้ง เมื่อไปถึงที่ห้างฯ ได้พบกับตำรวจ นายหนึ่ง ยศร้อยเอก ได้เข้ามาพูดจาข่มขู่หาว่าพวกผมเข้ามาทำร้ายร่างกายพนักงาน ทางผมจึงแจ้งเหตุผลไปว่า เพราะอะไรพวกผมจึงต้องมากัน ทางนายตำรวจคนนั้นได้แจ้งทางผู้ควบคุมห้างฯ ให้ไปเอาภาพวงจรปิด พร้อมทั้ง กล้องถ่ายรูปมาถ่ายรูปพวกผมพร้อมทั้งพูดจาข่มขู่สารพัด
แต่พอพวกผมมากันเยอะขึ้น สักประมาณ 30-40 คน ตำรวจนายนั้นจึงมีท่าทีอ่อนลง และยอมรับฟังเหตุผล และพวกหัวหน้าของห้างฯ ได้มีการออกมาเจรจา โดยทาง ผมแจ้งว่าไม่ได้ต้องการอะไรแค่ต้องการคนผิดมาลงโทษทางกฏหมายเท่านั้น แต่ทางห้างฯ และตำรวจนายนั้นได้ อ้างสารพัดว่าไม่สามารถติดต่อหรือเรียกตัวผู้กระทำความผิดมาได้ ขอชื่อ ขอสำเนาบัตรประชาชนกับทางห้างฯ ก็อ้างว่าไม่มี ไม่รู้จัก
พี่ชายของผมจึงได้ไปแจ้งความที่โรงพัก และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผมได้มาทราบที หลังว่าตำรวจนายนั้น เป็นเจ้าของบริษัท รปภ. ที่มาเฝ้าห้างฯ
พวกผมจึงได้ดำเนินการโดยไปกดดันบริเวณหน้า ห้างเพื่อขอให้ทางห้างรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น รออยู่ประมาณสัก 1 ชั่วโมง ทางห้างได้แจ้งตำรวจเข้ามา ประมาณ 20 นาย ผมจึงได้แจ้งว่าผมอยากได้ความรับผิดชอบจากทางห้างว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร โดย ในขณะที่พวกผมยืนกดดันอยู่หน้าห้างฯ ประชาชนที่เดินผ่านไป ผ่านมา ได้เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจึงเล่า รายละเอียดให้ฟัง
ก้มีคนจำนวนมากเหมือนกันที่บอกว่า เค้าก็เคยโดน บางคนก็ต้องจ่ายเงิน บางคนก็ต้องโดนค้น จนเวลาผ่านไป มีคนจำนวนมากที่เคยโดนแบบพวกผม
ได้ยืนคอยเพื่อที่เพื่อที่จะคอยฟังว่าทางห้างจะรับผิดชอบ ยังไงบ้าง หลังจากผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่งจำนวนคนเริ่มเยอะขึ้น พนักงานของทางห้างประมาณ 10 คนก็ ได้เดินออกมาขอโทษ พร้อมทั้งบอกว่าเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้โดยจะมีการเจรจากับ นายใหญ่ของสาขา ในวัน พุทธที่ 21 ก.ค. และขอให้พวกผมกลับไปก่อน พวกผมจึงได้แยกย้ายกันกลับ ผมจึงอยากเตือนผู้ที่เข้าไปใช้ บริการให้ระวังไว้ หากพวกผมเป็นตาสี ตาสา
เข้าไปซื้อของแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ เรื่องคงจะจบ แต่พอดีว่าผม เป็นคนพื้นที่จึงสามารถกดดันจนทางห้างฯ ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผมลงเรื่องนี้เพื่ออยากจะ เตือนคนทั่วไป และแจ้งผู้เกี่ยวข้อง(ผู้ใหญ่ของห้างคาร์ฟูร์) หากได้รับรู้เรื่องนี้โปรดได้มีการอบรมมารยาทของ พนักงาน และสร้างความรับผดชอบต่อลูกค้าให้มากกว่านี้ พร้อมทั้งอย่าคิดว่าเอาหน้าที่ของตำรวจมาอวดเบ่งทำ อะไรกับประชาชนก็ได้ ผมไม่รู้ว่าถ้าหากผมไม่มีคนไปกดดันป่านนี้เรื่องก็คงจะเงียบไปแล้ว แล้วผลการเจรจาใน วันพุทธ ได้ผลสรุปอย่างไร
ผมจะมาแจ้งให้ทราบอีกทีครับ
Hotmail: Trusted email with Microsoft’s powerful SPAM protection. Sign up now.
|