ช่วยกันฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล รมต ครม
พรรคการเมืองและทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เปิดคำฟ้องฉบับชาวบ้าน
ยื่นศาลปค.เอาผิดครม.ปู บริหารจัดการน้ำสุดห่วย ปกปิดข้อมูลทำคนกระอัก
|
![]() ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดมหาอุทกภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรง ก่อให้ผลเสียหายกระทบเป็นวงกว้างแก่ประชาชนคนไทยเป็นจำนวนมาก จนเกิดเสียงวิจารณ์กันว่า หลังน้ำลดลงแล้ว จะมีประชาชนผู้ได้รับความเสียหายดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อเอาผิดกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำที่ไม่ได้ประสิทธิภาพนั้น ล่าสุด นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ผู้มีอาชีพทนายความ ได้เขียนบทความเรื่อง "สมมติว่ามีคนฟ้องรัฐบาลฐานบริหารน้ำจนท่วมอย่างไม่เป็นธรรม คงยี่นฟ้องประมาณนี้" ลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว เมื่อเวลา 20:02 น.ของคืนวันที่ 6 พ.ย.ที่่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้ ศาลปกครอง(ในพื้นที่ศาล) ข้าพเจ้าประชาชนคนไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างไม่เป็นธรรมจากกรณีรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี, คณะรัฐมนตรี, กรมชลประทาน, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, สำนักงานกรุงเทพมหานคร ได้บริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมอย่างไม่เป็นธรรมและสร้างความเสียหายแก่ข้าพเจ้าโดยมีพฤติการณ์ดังต่อไปนี้ 1.มีการปิดประตูระบายน้ำเพื่อเจตนาให้พื้นที่ๆโจทก์อยู่อาศัย เป็นพื้นที่สำหรับพักมวลน้ำไว้ โดยการกระทำเช่นนั้น ก่อผลให้พื้นที่อยู่อาศัยและทำกินตามปกติ มีน้ำท่วมท้นหรือน้ำท่วมสูงขึ้นกว่าปกติและระยะเวลาท่วมยาวนานขึ้นกว่าปกติ 2.มีการขัดขวางการไหลของน้ำซึ่งไหลตามธรรมชาติ ให้น้ำไม่สามารถไหลได้เองตามธรรมชาติโดยฝ่ายรัฐโดย(ดูว่าอยู่พื้นที่ไหน)ได้ก่อสร้างคันกั้นน้ำเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้น้ำระบายผ่านไปได้โดยปกติ ส่งผลให้พื้นที่ๆโจทก์อาศัยอยู่อย่างปกติสุข น้ำท่วมทันทีหรือน้ำท่วมสูงขึ้นกว่าปกติและระยะเวลาท่วมยาวนานขึ้นกว่าปกติ 3.รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้กระทำการอันเป็นการปล่อยให้มีการขวางกั้นแนวกั้นน้ำระหว่างพื้นที่อันเป็นผลให้บางพื้นที่ท่วมและบางพื้นที่ไม่ท่วม การกระทำเช่นนั้นถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนชาวไทยโดยไร้เหตุผลที่เป็นธรรมต่อโจทก์อันขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 30 ซึ่งว่าด้วยเรื่องความเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัติ 4.การกระทำของนายกรัฐมนตรี, คณะรัฐมนตรี, สำนักงานกรุงเทพมหานคร โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและกรมชลประทานทำการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมนั้น ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 26 เพราะในการบริหารจัดการปัญหาน้ำในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ๆโจทก์อยู่อาศัยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 26 ว่าด้วยเรื่องการใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญไทย ![]() 6.การรายงานสถานการณ์น้ำของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งตั้งตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี นั้น ปกปิดข้อมูลที่แท้จริงของน้ำ ไม่ชี้แจงความรุนแรงที่แท้จริงให้โจทก์และประชาชนผู้ประสบภัยได้ทราบ หากรัฐบาลแจ้งสถานการณ์น้ำที่เป็นจริง โจทก์และประชาชนผู้ประสบภัย จะไม่เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมถึงเพียงนี้ การกระทำเช่นนั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 56 ว่าด้วยเรื่องสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ 7.การตัดสินใจในการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี, คณะรัฐมนตรี และกรมชลประทาน เลือกบริหารจัดการโดยไม่ได้มีการเปิดโอกาสโจทก์และประชาชนในพื้นที่ที่รัฐบาลบริหารจัดการให้ต้องเป็นพื้นที่น้ำท่วม ได้แสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 57 อีกทั้งการกระทำดังกล่าวยังเป็นขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 66 และมาตรา 67 ว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนที่จะต้องมีทางเลือกในการตัดสินใจดูแลชุมชนท้องถิ่นของตัวเอง แต่รัฐบาลหาได้ทำเช่นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไม่ หากแต่บริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่โดยไม่ได้คำนึงถึงโจทก์และประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เลย โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อสิทธิของโจทก์และประชาชนในท้นที่อยางยิ่ง 8.(กรณีไฟฟ้าช๊อตตายจากน้ำท่วม แล้วไม่ตัดไฟฟ้า) ผู้ตายเป็นลูกหรือพ่อหรือแม่หรือสามีหรือภรรยาของโจทก์ต้องเสียชีวิตเพราะความล่าช้าในการตัดสินใจตัดกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้า (นครหลวงหรือภูมิภาค) อันเป็นการสร้างความเสียหายแก่โจทก์ เพราะหากการไฟฟ้า (นครหลวงหรือภูมิภาค) ตัดสินใจตัดกระแสไฟฟ้าเร็วกว่านี้โจทก์ก็ไม่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งจากไปอย่างไม่มีวันกลับ การสูญเสียสามารถป้องกันได้แต่การไฟฟ้า (นครหลวงหรือภูมิภาค) หาได้ทำไม่ 9.(แถมให้)การที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสำนักงานกรุงเทพมหานครไม่ใส่ใจดูแลการทำแนวคันกั้นน้ำถาวรตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เขตบางพลัดน้ำท่วมได้จากการละเว้นการสร้างแนวกั้นน้ำในพื้นที่เฉพาะจุดดังกล่าวโดยอ้างความรับผิดชอบว่าเป็นพื้นที่เอกชนนั้น โจทก์และประชาชนในเขตบางพลัดเห็นว่า หากทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสำนักงานกรุงเทพมหานครทำการเวนคืนที่ดินบริเวณดังกล่าว เพื่อนำมาใช้สร้างแนวคันกั้นน้ำแบบถาวร โจทก์และประชาชนในพื้นที่เขตบางพลัดก็ไม่ต้องเสียหายจากภัยน้ำท่วมเลย คำขอท้ายฟ้อง 1.โจทก์เป็นเพียงประชาชนธรรมดา ไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของฝ่ายรัฐที่มีอำนาจ ขอโปรดศาลมีคำสั่งเรียกพยานหลักฐานต่างๆจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย ![]() 3.จากความเสียหายเหตุไฟฟ้าช๊อตตายนั้น โจทก์ขอเรียกค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 10,000,000 บาท ค่าเสียหายทางจิตใจ 10,000,000 บาท และขอให้การฟฟ้า (นครหลวงหรือภูมิภาค) ออกระเบียบปฏิบัติกรณีน้ำท่วมที่ชัดเจนและรวดเร็วในการตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดลักษณะนี้ขึ้นในอนาคต 4.ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสำนักงานกรุงเทพมหานครต้องชดใช้ค่าเสียดังต่อไปนี้ (..เสียหายอะไรก็ว่าไปเลยครับตามที่เจ็บจริง) สมมุติว่าจะฟ้องนะคงฟ้องแบบนี้ สมมุตินะจ๊ะ ลองแชร์ๆกันไปอ่านดูนะ เพื่อใครจะใช้บริการศาลปกครอง ทนายไม่ได้ความผู้นี้ พร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อการฟ้องกรณีนี้ แก้ไขเพิ่มประเด็นเรื่องเขื่อนกั้นน้ำนั้น ผมเป็นทนายมองแง่กฎหมายเป็นอย่างเดียว และผมเห็นแต่ข่าวลอยไปลอยมา แต่ยังไม่เห็นเอกสารซักชิ้นหลุดออกมาว่า ใครสั่งไม่ให้ระบายน้ำออกจากเขื่อนภูมิพล หากมีคำสั่งเช่นว่านั้นอยู่จริงก็สามารถนำมาเพิ่มในฟ้องได้ครับ |