ทำบ่อนไม่เคยคุก-รุกทะเลไปไม่รอด ศาลฎีกาตัดสิน 12 ปี “ปอ ประตูน้ำ”

[iOat]

 

 

ทำบ่อนไม่เคยคุก-รุกทะเลไปไม่รอด ศาลฎีกาตัดสิน 12 ปี “ปอ ประตูน้ำ” โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 27 มิถุนายน 2559 17:53 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มิถุนายน 2559 18:28 น.) ไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือ “ปอ ประตูน้ำ        MGR Online - ไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือ “ปอ ประตูน้ำ” อดีตเจ้าพ่อกาสิโนประเทศไทย หอบสังขารวัย 75 ปีฟังคำตัดสิน ศาลระบุกระทำการอุกอาจไม่ยำเกรงกฎหมาย สร้างความเสียหายให้ระบบนิเวศในทะเลอย่างมหาศาล แม้ยอมกลับคำสารภาพในชั้นฎีกาก็ถือว่าสายเกินไป             จากกรณีนายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ ตกเป็นจำเลยมีความผิดต่อพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ความผิดต่อระราชบัญญัติป่าไม้ ความผิดประมวลกฎหมายที่ดินเมื่อ พ.ศ. 2550 ต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันบุกรุกเข้าแผ้วถาง ก่นสร้าง หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 12 ปี ฐานร่วมกันสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในทะเลในเขตน่านน้ำไทย อันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 69,255,000 บาทจำเลยอุทธรณ์             กระทั่ง พ.ศ. 2552 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวให้จำคุก 5 ปีนอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาโดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง             ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้ ศาลฎีกาได้ตัดสินในคดีดังกล่าวโดยมีรายละเอียดว่า ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธเป็นรับสารภาพในชั้นศาลฎีกา และขอให้ลงโทษสถานเบา ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อมตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีนี้จำเลยฎีกาว่ามิได้กระทำความผิดตามฟ้องประการหนึ่ง การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้การรับสารภาพในชั้นฎีกา แม้จะถือว่าเป็นการขอแก้ไขคำให้การจากที่ได้ให้การปฏิเสธเป็นให้การรับสารภาพซึ่งจำเลยไม่อาจกระทำได้เพราะการแก้ไขคำให้การจะต้องกระทำก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา             ตามฎีกาของจำเลยที่ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการรับโทษนั้นพิจารณาเห็นว่า การที่จำเลยถมดินลงไปในทะเลเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นอย่างมากจนยากที่จะเยียวยาแก้ไขให้มีสภาพกลับมาดีดังเดิมได้อีก แม้จะมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบางส่วนออกตามที่จำเลยอ้างแล้วก็ตาม แต่สภาพแวดล้อมใต้ท้องทะเลก็ต้องเปลี่ยนแปลงไม่อาจกลับมาเหมือนเดิม อีกทั้งจำนวนเนื้อที่ที่มีการบุกรุกถมทะเลเป็นเนื้อที่จำนวนมากซึ่งตามคำฟ้องปรากฏว่ามากถึง 69,255 ตารางเมตร เดิมที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุมีป่าชายเลนขึ้นอยู่แต่จำเลยกระทำการบุกรุกถมดินเข้าครอบครองเป็นการแสวงหาประโยชน์เพียงเพื่อตนเองโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ทรัพยากรทางธรรมชาติอันเป็นของส่วนรวม เป็นการทำลายระบบนิเวศทางทะเลอย่างมาก จำเลยกระทำอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 กำหนดโทษจำคุกจำเลยเพียง 5 ปี ยังนับว่าเป็นโทษที่เบาเกินไป             ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น และเมื่อกำหนดโทษจำคุกของจำเลยตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดคือ 12 ปีแล้ว จึงไม่อาจรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้อีก ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ฎีกาส่วนนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 12 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2             ทางด้านนายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือ “ปอ ประตูน้ำ” ปัจจุบันอายุ 75 ปี เขาคืออดีตเจ้าพ่อบ่อนพนันขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ผู้สร้างตำนานจนโด่งดังระดับประเทศ เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.มาหลายครั้งหลายหนแต่รอดมาทุกครั้ง ไม่เคยมีกฎหมายอาผิดต่อเขาได้กระทั่งมาติดกับดักความโลภในคดีบุกรุกที่สาธารณะซึ่งนับได้ว่ามีเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ผู้กว้างขวางทั้งหลายไปไม่รอดเพราะพยานหลักฐานที่มัดตัวอย่างแน่นหนานั่นเอง http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000064195