ทริปนี้เป็นทริปที่อาจจะเรียกได้ว่าเหนือความคาดหมายของครอบครัวเราจริงๆ
เพราะไม่คิดมาก่อน ว่าการเที่ยวหน้าฝนจะได้เห็นความสวยงามของเมืองไทยในอีกมุมมองหนึ่ง
และที่สำคัญคือ เป็นมุมมองที่มีเสน่ห์และความสวยที่แตกต่าง อย่างที่เราไม่อาจจะเห็นได้ในฤดูอื่นๆเลยทีเดียว
ทริปนี้....ณ สุราษฏร์ธานี จังหวัดที่เราไม่เคยไปมาก่อน โดยจุดหมายปลายทางของเราก็คือ
“กุ้ยหลินเมืองไทย” และ “รีสอร์ตในฝัน-ภูผาและลำธาร”
ทริปนี้เราขับรถออกจากบ้านกรุงเทพตั้งแต่ 4.30 น. มีเด็กน้อยร่วมขบวนมาด้วย 1 คนเช่นเคย
แวะสักการะ "วัดพระธาตุไชยาราชวรวิหาร" เพื่อความเป็นสิริมงคล..เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรวิหาร
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสุราษฏร์ธานีและเป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคใต้
ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
"เขื่อนรัชชประภา" หรือใครๆก็เรียกว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” เป็น Dream Destination ของเราในทริปนี้
เขื่อนเชี่ยวหลานหรือเขื่อนรัชชประภาได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามใหม่
จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”
เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 และเสร็จในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2530
สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลานโดยพื้นทีส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสก
เราเช่าเรือเข้าไปในเขื่อน คนขับเรืออัธยาศัยดีและการล่องเรือครั้งนี้ดูไม่อันตรายอย่างที่คิด
เพราะเรือลำค่อนข้างใหญ่ และมีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นเสื้อชูชีพไว้ให้พร้อม
วิวสวยตรงเืบื้องหน้าคือยอดขาหินปูนที่สวยงาม รายล้อมรอบตัวเราไปหมด
มองไกลๆไปที่ยอดเขาเบื้องหน้ากลับมีหมอกให้ได้เห็นกันแบบนี้
คนขับเรือบอกว่า ถ้าเที่ยวจริงๆ ทริปนี้ก็ราวๆ 2 ชั่วโมงค่ะ ไปที่กุ้ยหลินกันก่อน แล้วไปที่แพ
พอขับมาถึง หิน 3 ก้อน Landmark "กุ้ยหลินเมืองไทย" ของที่นี่ คนเรือก็จอดให้ถ่ายรูปกัน
หลังจากเราเพลิดเพลินกับความสวยงามที่แปลกตาของกุ้ยหลินเมืองไทยกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปพักกันในวันนี้คือ ภูผาและลำธาร รีสอร์ตในฝันของใครๆหลายๆคน
จากเขื่อนรัชชประภา ใช้ทางหลวงสาย 401 ขับมาเรื่อยๆประมาณ 40 กิโล
ระหว่างทางที่ขับรถบนเส้นทางเล็กๆ ฝนตกไปด้วย ทำให้ 40 กิโลนี้ ดูนานนนเป็นพิเศษเลย
แต่ก็เป็นเส้นทางที่ไม่น่าเบื่อ เพราะ 2 ข้างทางมีทัศนียภาพที่สวยงาม ต้นไ้ม้ร่มรื่น
และตอนเช้าก็มาถึง ... สิ่งที่เราพบเห็นอยู่เบื้องหน้า ทำให้เราสลัดความคิดที่จะหยุดเทียวในฤดูฝนไปทันที
เพราะหมอกบนยอดเขาตรงหน้า มันสวยจนเกินที่จะหาคำมาบรรยายจริงๆ
และถ้าเราเที่ยวในฤดูอื่น เราคงไม่ได้พบเจอบรรยากาศเช่นนี้แน่นอน
หมอกอยู่ใกล้เรามากกกก จนเหมือนเกือบจะเอื้อมถึง
ทุกมุม ทุกทิศทางในป่าหน้าฝนที่เต็มไปด้วยหมอก สร้างบรรยากาศที่แตกต่างให้กับเราจริงๆ
ส่วนคนนี้ สนุกสนานมาก เพราะไม่เคยเห็น ลูกบอกว่า "นี่เราไปอยู่บนเมฆใช่มั๊ยคะ ?"
รอบๆตัวก็เต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ทีุ่ชุ่มชื่นไปด้วยน้ำค้างและไอฝน สวยงามและสดชื่นมากๆ
ถึงแม้เราจะใช้เวลาที่นี่เพียงแค่คืนเดียว ในป่าธรรมชาติ ณ สุราษฏร์ธานี
แต่ระยะเวลาเพียงแค่คืนเดียวนี่เอง ที่ทำให้เราเห็นความสวยงามของการท่องเที่ยวในฤดูฝน
สถานที่เดียวกันในฤดูที่แตกต่าง ก็อาจจะมีความงามที่แตกต่างกันได้
และฤดูฝน ก็ทำให้เราเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในฤดูอื่นๆเลยค่ะ..
: ขอขอบคุณเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และผู้ที่ส่งต่อเมลนี้มาให้ ทุกท่านครับ
: ถ้าคุณชอบการเดินทาง ท่องเที่ยว มาร่วมรับและแบ่งปันเรื่องราว ประทับใจกับเราครับ "ชอบเที่ยวไทย"
: สมัครรับเมล ส่งเมลเปล่า (เมลเปล่าๆ ไม่มีข้อความใดๆ) ส่งไปที่ ilovetourth...@googlegroups.com
: ยกเลิกรับเมล ส่งเมลเปล่า (เมลเปล่าๆ ไม่มีข้อความใดๆ) ส่งไปที่ ilovetourtha...@googlegroups.com
: แบ่งปันเรื่องราว ความประทับใจ หรือข่าวประชาสัมพันธ์ เมลมาที่ ilovet...@gmail.com เท่านั้นนะครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++