Fwd: FW: อย่าเป็น ฝีพายเฒ่า นั่งเฝ้า เรือโจร (เส้นใต้บรรทัด)

34 views
Skip to first unread message

Pramote Tarasak

unread,
Apr 3, 2012, 1:44:56 PM4/3/12
to dara...@googlegroups.com


---------- Forwarded message ----------
From: vivit duangrat <dvi...@hotmail.com>
Date: 2012/4/4
Subject: FW: อย่าเป็น ฝีพายเฒ่า นั่งเฝ้า เรือโจร (เส้นใต้บรรทัด)
To: anuso...@hotmail.com, apic...@yahoo.com, ar...@kmc.in.th, art_lak...@yahoo.com, ban...@ksc.th.com, bigt...@yahoo.com, b...@pandptelecom.com, boonc...@gmail.com, Chaiyong <chaiy...@hotmail.com>, chamn...@hotmail.com, chitti...@gmail.com, chot...@yahoo.com, kamp...@gmail.com, khuns...@yahoo.com, kitt...@hotmail.com, koo_...@hotmail.com, kporn...@hotmail.com, l_l...@tripetch-isuzu.co.th, mongol jesadanont <mongkolf...@gmail.com>, nopha...@yahoo.com, nutth...@yahoo.com, orie...@ksc.th.com, Paiboon Srivaree-Ratana <srivar...@yahoo.com>, prasong tharachai <prasongt...@yahoo.com>, ptar...@gmail.com, s_f...@yahoo.com, samr...@hotmail.com, santi Somboonviboon <sant...@hotmail.com>, sawad hemkamon <sawa...@hotmail.com>, seub...@gmail.com, suthe...@hotmail.com, tcha...@gmail.com, teer...@yahoo.com, van...@hotmail.com, vipada d <vip...@bjc.co.th>, vongs...@hotmail.com, weer...@hotmail.com, wora...@hotmail.com, worar...@hotmail.com, yod...@yahoo.com, ysa...@hotmail.com



 

 

อย่าเป็น ฝีพายเฒ่า นั่งเฝ้า เรือโจร (เส้นใต้บรรทัด) 

คนแก่คนเฒ่า ในแวดวงการเมืองบ้านเรา เหลืออยู่กี่คนที่พอจะยกมือไหว้ได้

เมื่อระบอบ ทุนสามานย์ เข้ามา ทำตลาด ในเวทีการเมือง คนเฒ่าคนแก่จำนวนไม่น้อย ก็ ขายตัว ขายใจ ขายจิตวิญญาณ บางคนถึงขั้น ขายพรรค สมัครเข้าเป็น ขี้ข้า ของนายทุนใหญ่ ขนเหรียญตราและเกียรติภูมิสารพัดไปรับประกันว่าคนคนนั้น พรรคพรรคนี้ มีความดี ความจงรักภักดี และพร้อมจะรับใช้ประเทศชาติเต็มที่

ไอ้ขี้ข้าเฒ่าเหล่านี้ เมื่อไหร่จะแก่ตายกันไปเสียให้หมดหนอ

ที่รำพึงออกมาเช่นนี้ ก็เพราะอยากให้ หัวหงอกๆ ทั้งหลาย ได้คิดถึงบั้นปลายท้ายสุดของชีวิต จะอุทิศร่างกายให้เป็นแค่ปุ๋ย หรือทิ้งแนวคิดเกียรติภูมิเอาไว้ เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นหลัง

ขอถามตรงๆ กับคนเหล่านี้ ได้ไหมครับ

1.พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน

ลืมอดีต คิดปัจจุบัน สร้างสรรค์อนาคต ดูจะเป็นเข็มทิศ ชีวิตและคาถาติดปากของพลเอกสนธิในเวลานี้

อาจเป็นเพราะท่านสวมหัวโขนประธานกรรมาธิการปรองดองฯ อยู่ แล้วตกเป็นเบี้ยล่างของมัน

มันในที่นี้ ก็น่าคิดว่า เจาะจงอยู่เฉพาะกับ ตำแหน่ง หรือยังมี มัน ที่เป็นตัวคนอยู่ข้างหลังด้วย

ยังไม่อยากคิดเรื่อง ผลประโยชน์ เพราะคนที่ผ่านตำแหน่งสูงสุดของชายชาติทหารอย่างท่าน ฐานะอย่างท่าน คงไม่ต้องการผลประโยชน์ใดๆ แล้วมั้ง

พลเอกสนธิเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ใช้ฐานอำนาจของ กองทัพมาหยุดยั้งอำนาจของฝ่ายการเมือง ในเวลานั้นคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังถูกสังคมตรวจสอบความดีความชั่ว ความสุจริตหรือยักยอกโกงกินอยู่อย่างเข้มข้น และทักษิณก็ดิ้นรนต่อสู้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงมีอิทธิพลเหนือการตรวจสอบโดยสภา องค์กรอิสระ และสื่อเท่านั้น ทักษิณยังพยายามกำราบปราบปราม ฝูงชน ที่มารวมตัวกัน เปิดโปง ความไม่สุจริตของเขา โดยเฉพาะการปลุกปั้นมวลชนเตรียมปะทะ หรือการตระเตรียม กองทัพ ส่วนที่ มีใจให้กัน ไว้กระทำการอะไรบางอย่างอีกซีกหนึ่งแล้ว

ดังนั้น การตัดสินใจ หยุดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ในวันที่ 19 กันยายน 2549 จึงเป็นการตัดสินใจที่เฉียบขาด ถูกเวลา และหยุดสถานการณ์ล่อแหลมได้ทันท่วงที

จากนั้น พลเอกสนธิและคณะ ก็ได้กระทำสิ่งที่ดี คือ รีบผลัก อำนาจการบริหารประเทศ ออกจากการยึดอำนาจของพวกตน เร่งรัดให้เกิด ฝ่ายบริหาร คือ คณะรัฐบาลชุด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และดำรงไว้ซึ่งฝ่ายตุลาการ โดยไม่ก้าวก่าย แทรกแซง ทั้งๆที่ข้ออ้างหนึ่งของการทำรัฐประหาร คือ การทุจริตโกงกินที่ไม่ถูกตรวจสอบของทักษิณและคณะ ท่านกลับเลือกให้มีการตั้งกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาตรวจสอบตามระบบและอย่างเป็น ธรรม โดยใช้อำนาจตามกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นฐานของการทำงาน เพื่อรวบรวมพยาน หลักฐาน และข้อกล่าวหาเฉพาะเรื่องการทุจริต หรือใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ จนเกิด ทรัพย์ที่ไม่ควรจะได้ ซึ่งต้องตกเป็นของแผ่นดิน ก่อนที่จะทำสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาว่าจะส่งฟ้องต่อศาลหรือไม่ ซึ่งนับว่าเป็นขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม ธรรมดาๆ แท้ๆ

ดังนั้น วันนี้ที่พลเอกสนธิมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการปรองดอง ยิ้มหวานให้กับการเสนอ ลบผลพวงความผิดที่เกิดจากการกระทำของ คตส. ผมว่าใจคอของท่านคงไม่ปกติแล้วมั้งครับ ท่านกำลังจะทิ้ง ความถูกต้องตามหลักการ ให้ พวกมากลากไป แถมท่านกระโดดไปอยู่ในกลุ่มพวกมากเหล่านั้นอย่างน่าเกลียดด้วย

ขอเรียนด้วยความเคารพว่า คนเราเมื่ออยู่มาจนแก่ได้ ในระดับหนึ่ง คุณธรรมความคิดยิ่งต้องเข้มข้น และต้องเป็นหลักช่วยยึด ความถูกต้อง เอาไว้ให้แก่บ้านแก่เมือง

เมื่อ 19 กันยายน 2549 ท่านป่าวประกาศให้คนทั้งโลกฟังว่า ระบอบทักษิณเลวอย่างไร ไม่เปิดทางให้มีการตรวจสอบอย่างไร โกงกินอย่างไร ไม่เคารพองค์พระประมุขอย่างไร สร้างความแตกแยก ให้แก่สังคมขนาดไหน วันนี้ท่านลืมมันหมดแล้วหรือครับ ในขณะที่สังคมยังไม่ลืม และรอเห็นผลการตรวจสอบจากกระบวนการยุติธรรม ท่านกลับมาช่วย พายเรือให้โจรนั่ง นำโจรไป ประหารกระบวนการ ยุติธรรม ทิ้งเสียอย่างนั้น มันใช้ได้แล้วหรือครับ

ท่านลืมอดีตได้ เพราะวันนี้อดีตมันไม่ให้ประโยชน์อะไรกับท่านแล้วใช่ไหมครับ ปัจจุบันท่านมีทางเลือก แต่ประเทศชาติมี ทางเลือกไหมครับ

ขณะนี้ประเทศชาติกำลังถูกโจรหื่น ดักหน้าดักหลัง ต้อนให้ เข้ามุมเพื่อจะ ขืนใจ นอกจากท่านไม่ช่วยแล้ว ท่านยังนั่งดูต้นทาง ยิ้มกริ่ม บอกทุกคนให้ลืมอดีต คิดปัจจุบัน เพื่อสร้างสรรค์อนาคต ถามว่าอนาคตชั่วๆ ใครอยากจะช่วยท่านสร้างล่ะครับ

เราต่างกำลังรู้สึกว่า ท่านกำลัง ก่อการรัฐประหาร อีกครั้งแล้ว โดยครั้งนี้ท่านทำเพื่อทักษิณ และครั้งนี้ ท่านลบอำนาจตุลาการทิ้ง อย่างแสนทุเรศทุรัง

ท่านคงไม่ร่วมพายเรือให้โจรนั่ง หรือต่อเรือให้โจรเอามันไปปล้นบ้านยึดเมืองอยู่ ใช่ไหมครับ

2.พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

รู้ไหมครับว่า คนไทยมีความสุขมาก ตอนที่ท่านหายเงียบไป

ท่านเป็นคนแก่ที่สังคมมีคำถามว่า เป็นชายชาติทหารที่จริงใจ ตรงไปตรงมา หรือ กลับกลอกหลอกลวง

วันหนึ่งท่านนำเหรียญตราเกียรติยศออกมากอง รับประกันว่าทักษิณกับพรรคเพื่อไทย มีความจงรักภักดีเป็นที่ยิ่ง วันหนึ่งท่าน ก็สะบัดตูดจากไป ส่งจดหมายน้อยให้คนใกล้ชิดพูดแทนว่า ท่านลาออกจากพรรคนี้แล้ว เพราะดูเหมือนพวกเขาไม่มีความจงรักภักดี ที่มากพอ แล้วท่านก็หายเงียบไป

วันหนึ่ง ท่านก็โผล่หัวมา ทำหนังสือ 11 หน้ากระดาษ ประกาศหนุนแนวทางการปรองดอง ที่คว่ำบาตรกระบวนการยุติธรรม

แหงละ...ก็ท่านมีความผิดติดตัว ขณะเป็นรองนายกฯ แล้วปล่อย ให้ตำรวจเอาระเบิดแก๊สน้ำตามายิงพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่หัวรุ่งยันหัวค่ำ ท่านหวังจะ แบ่งส่วนบุญ จากการปรองดองนี้ใช่ไหมครับ หวังจะได้รับการนิรโทษกรรมจากกระบวนการนี้ใช่ไหมครับ

ทำทีเป็นยกนโยบาย 66/23 เป็นตัวอย่าง ว่านำความ ปรองดองมาสู่สังคมได้ ท่านคิดว่าสังคม แก่กะโหลกกะลา กันทั้งหมด แล้วหรือยังไง ที่จะไม่จำแนกแยกแยะว่า เหตุการณ์ 66/23 เป็นเรื่อง ของคนที่มีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ที่กลับใจ เข้าใจแล้วว่า คอมมิวนิสต์ในป่า ไม่ใช่ทางของการสร้างชาติ สร้างชีวิต คนเหล่านั้นไม่ได้เผาบ้าน เผาเมือง ไม่ได้โกงบ้านโกงเมือง เขาเพียงแต่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกับรัฐ ก็หนีเข้าป่า หาแนวทางเผชิญหน้ากับรัฐ เพื่อสร้างสังคมในอุดมคติให้สำเร็จ วันหนึ่งพวกเขาก็ตื่นรู้ รู้ว่าสังคมในฝันนั้นไม่ใช่ ก็อยากจะ กลับมาเป็นพลเมืองของประเทศไทยอย่างที่เคยเป็น นโยบาย 66/23 เปิดทางให้พวกเขาวางอาวุธ กลับมาดำเนินชีวิตเหมือนคนไทยทั่วไป ร่วมพัฒนาประเทศไทยของเรา

ถามว่าวันนี้ สถานการณ์มันเหมือนกันตรงไหนครับ ทักษิณเสียประโยชน์เพราะถูกรัฐประหาร หมดโอกาสสูบกินและยึดครองประเทศไทย ถูกตรวจสอบเปิดโปง และต้องการตัวมาดำเนินคดีตาม กฎหมาย เขาหันไปปลุกปั่นประชาชนที่หลงใหลการพึ่งพิงตัวเขา ชมชอบ ความฉับไวแต่ไม่ถูกกฎหมายแบบเขา และถูกบิดเบือนข้อเท็จจริงให้เห็นว่าทักษิณถูกกลั่นแกล้ง กลับบ้านไม่ได้ เงินทองที่ถูกยึดไปก็หามาโดยสุจริต ในที่สุด คนเหล่านี้ถูกหลอกให้มาชุมนุม ระหว่างที่พวกเขาชุมนุม มีการนำกลุ่มกองกำลังติดอาวุธเข้าไปแฝง เข่นฆ่า ทหาร เข่นฆ่าประชาชนเพื่อใช้เป็นเครื่องเซ่นสังเวยต่อสถานการณ์

วันหนึ่งมาบอกว่า ลืมๆ กันไปเถิดนะ อย่าเอาผิดใครเลย ลืมป้าย ฆาตกรมือเปื้อนเลือด ไม่ต้องถามว่า ใครฆ่าประชาชน เตรียมแจกจ่ายเงิน 7 ล้านกว่าบาท เพื่อชดเชยเยียวยาบอกแก่ราชการและร้านค้าว่า ใครที่เผาเอาผิดเขาไม่ได้ เขาแค่อารมณ์เสียทางการเมือง ต้องให้อภัย และเลยเถิดถึงขั้นจะลบคดีทิ้ง ถอยไปจนถึงวันรัฐประหาร ท่านว่ามันเหมือน กับการที่เราเปิดทางให้แก่ผู้มีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ที่ไม่ได้เผา แม้กระทั่งตอข้าวหรือหญ้าคา ให้กลับมาร่วมสร้างสังคมตรงไหนเหรอ

ท่านยังประสาทดีอยู่เหรอ พลเอกชวลิต

3.อ.วุฒิสาร ตันไชย

ผมไม่เข้าใจ การออกมาฮึ่มๆ จะถอนผลงานวิจัย หากกรรมาธิการ ไม่ทบทวนกรณีการใช้เสียงข้างมากในการให้ความเห็นชอบต่อข้อเสนอ ของสถาบันพระปกเกล้า ในเรื่องของการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม คดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองทุกประเภท และให้เพิกถอน ผลทางกฎหมายที่ดำเนินการ โดย คตส.ทั้งหมด และไม่นำคดีที่ ยังอยู่ระหว่างกระบวนการและตัดสินไปแล้ว มาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากผู้วิจัยไม่เห็นด้วยกับการใช้เสียงข้างมากตัดสิน เพราะขณะนี้ ยังมีความขัดแย้ง และไม่เกิดบรรยากาศของการปรองดองในสังคม ต่างฝ่ายต่างยังยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง และเกรงจะเป็นสาเหตุของความขัดแย้งรอบใหม่ในอนาคต ทั้งนี้ คณะผู้วิจัย จะขอถอนรายงานวิจัยที่เสนอ เพื่อไม่ให้นำผลวิจัยไปอ้างอิง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ที่ไม่เอื้อต่อการสร้างความปรองดองในชาติ มีการใช้เสียงข้างมาก ในการให้ความเห็นชอบต่อข้อเสนอ

อ.วุฒิสารครับ กระดูกที่ถูกยัดใส่ในปากหมา แล้ว ท่านเคยเห็นหมาตัวไหน คายกระดูกแสนหวาน คืนมาให้ท่านบ้างล่ะครับ ท่านควรจะเห็นในส่วนของท่านว่า ท่านและคณะวิจัย เป็นคนยื่นกระดูกให้หมาไปเอง อีตอนยื่น ทำไมไม่คิดให้รอบคอบก่อนล่ะครับ สติหายไปไหนในเวลานั้นครับ

ท่านควรทบทวนว่า ในฐานะนักวิชาการ ท่านได้ทำงาน วิชาการที่ตรงไปตรงหมาหรือว่าตุกติก ผมคงไม่บังอาจไปกล่าวหาอะไรท่านหรอก แต่ข้อท้วงติงทั้งหลาย และข้อมูลสำคัญที่ หาย หรือถูก กลบเกลื่อน-ขัดเกลา ให้เบาลง ในส่วนที่เป็นความผิดความชั่วของทักษิณและผู้ชุมนุม นปช. ท่านจะอธิบายอย่างไร

ในเมื่อท่านต่อเรือให้โจรแล้ว ท่านคิดว่า โจรมันจะยอมเดินเท้าเตาะแตะต่อไป ในขณะที่เรือจอดอยู่ตรงหน้าอย่างนั้นหรือ

ถ้าจะถอนก็ถอน ไม่ต้องไปต่อรอง และเหตุผลของการถอน ไม่ใช่การที่กรรมาธิการไปลงมติ ใช้เสียงส่วนมากลากไปด้วย แต่ต้องถอนเพราะ อ.วุฒิสารรู้สึก อาย หลังกลับมาอ่านงานวิจัยของ คณะตนเองอีกครั้ง

อายที่ทำเหมือนประชาชนคนไทยไม่รู้ไม่เห็นความเป็นไปในรอบหลายปีนี้ของประเทศชาติ

ผมจึงอยากถามท่านแค่สั้นๆ ว่า บัดนี้ ท่านรู้สึกอายในเหตุนั้นบ้างหรือเปล่า?

โดยสรุป สังคมไทยเป็นสังคมจัดชั้น ลดหลั่นตามระดับความอาวุโส เราเรียกคนที่แก่กว่าพ่อแม่เราว่า ลุง-ป้า โดยไม่ต้องเป็นเครือญาติ เพราะเราเป็นสังคมที่นับถือความมีอาวุโส

ดังนั้น น่าจะถึงเวลาที่บรรดาผู้อาวุโส จะต้องตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาบ้างแล้วว่า กูแก่กะโหลกกะลา แก่เลอะเทอะจนน่าจะนั่ง ให้หมามันเยี่ยวรด หรือแก่อย่างมีหลักการ และช่วยค้ำยัน ประเทศชาติให้มั่นคงแข็งแรง บนพื้นฐานของความถูกต้อง ดีงาม!!

จิตรกร บุษบา
วันที่ 28/3/2012

+=====================================================================







Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages