Fwd: FW: ปริศนา "มาตรฐานจริยธรรม" : เปลวสีเงิน 14 ก.พ.55

75 views
Skip to first unread message

Pramote Tarasak

unread,
Feb 17, 2012, 12:32:21 PM2/17/12
to nutth...@yahoo.com, sucha...@hotmail.com, dara...@googlegroups.com


---------- Forwarded message ----------
From: vivit duangrat <dvi...@hotmail.com>
Date: 2012/2/18
Subject: FW: ปริศนา "มาตรฐานจริยธรรม" : เปลวสีเงิน 14 ก.พ.55
To: anuso...@hotmail.com, apic...@yahoo.com, ar...@kmc.in.th, art_lak...@yahoo.com, bigt...@yahoo.com, b...@pandptelecom.com, boonc...@gmail.com, Chaiyong <chaiy...@hotmail.com>, chamn...@hotmail.com, chitti...@gmail.com, chot...@yahoo.com, engs...@yahoo.com, kamp...@gmail.com, khuns...@yahoo.com, kitt...@hotmail.com, koo_...@hotmail.com, kporn...@hotmail.com, mongkolf...@gmail.com, nopha...@yahoo.com, Paiboon Srivaree-Ratana <srivar...@yahoo.com>, pi...@ncl.co.th, prasong tharachai <prasongt...@yahoo.com>, ptar...@gmail.com, s_f...@yahoo.com, samr...@hotmail.com, santi Somboonviboon <sant...@hotmail.com>, sawad hemkamon <sawa...@hotmail.com>, seub...@gmail.com, suthe...@hotmail.com, tcha...@gmail.com, teer...@yahoo.com, tms...@thaiairways.com, van...@hotmail.com, vipada d <vip...@bjc.co.th>, vongs...@hotmail.com, weer...@hotmail.com, wora...@hotmail.com, worar...@hotmail.com, yod...@yahoo.com, ysa...@hotmail.com



 

 This is Episode 2 
( Elaboration of the previous story )

ปริศนา "มาตรฐานจริยธรรม"?
 
14 กุมภาพันธ์ 2555 - 00:00
   ผมก็เพิ่ง "ตาสว่าง" วันนี้เอง หลังจากข้องใจมานานว่า เพราะเหตุใด รัฐบาลเพื่อไทยจึงจ้องฉีกรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่นี้ ทั้งที่เป็นผู้ให้กำเนิด "นายกฯ หญิง" อันเป็นที่เคารพ-เทิดทูนของพวกเขาแท้ๆ ได้ยินแต่ท่องกันมาอ้างว่า "เผด็จการร่าง ไม่เป็นประชาธิปไตย" จนเมื่อเกิดกรณี ว.๕  ชั้น ๗ "กลุ่มกรีน" ยื่นหนังสือถึง "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ให้ตรวจสอบจริยธรรมยิ่งลักษณ์เมื่อวาน (๑๓ ก.พ.๕๕) นั่นแหละ จากบางปู ผมก็เลยถึง...บางอ้อ!
    ที่อ้อ...! ก็เพราะกลุ่มกรีน โดยนายจาตุรนต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้เป็นตัวแทนกลุ่ม ให้เหตุผลในการยื่นหนังสือตรวจสอบจริยธรรมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า...
    "เป็นนายกฯ ไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฏร เมื่อวันที่ ๘ ก.พ.๕๕  และเดินทางไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวเป็นเวลานานกว่า ๓ ชั่วโมง ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
    ทางกลุ่มกรีนเห็นว่า ธุรกิจส่วนตัวที่นายกฯ ไปปฏิบัติ อาจจะเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปคุยธุรกิจเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง หากไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตนเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็น่าที่จะเปิดเผยถึงภารกิจดังกล่าวได้
    ดังนั้น จึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่ผู้ตรวจการจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๙ เพื่อตรวจสอบจริยธรรมของนายกรัฐมนตรี และหากพบข้อเท็จจริงให้ดำเนินการในเรื่องของการถอดถอนทันที เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง..."
    ผมก็เลยนึกขึ้นได้ เพราะรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๐ คือฉบับปัจจุบัน ในจำนวน ๑๕ หมวด มีหมวดหนึ่ง คือหมวด ๑๓ มาตรา ๒๗๙-๒๘๐ ว่าด้วยจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว นำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ด้วยนี่เอง
    รัฐบาลเพื่อไทย คงรู้ตัวเองว่า "ไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรม" จึงเหมือนผีกลัวใบหนาด เมื่อมีอำนาจ จึงตั้งหน้า-ตั้งตาฉีกทิ้ง ไม่ต้องการปล่อยไว้ให้ย้อนกลับมาฉีกเนื้อตัวเอง จะเอารัฐธรรมนูญปี ๔๐ มาใช้ท่าเดียว เพราะรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๔๐ ไม่มีหมวดว่าด้วยจริยธรรม!
    แล้วก่อนหน้านี้ ทำดัดจริต-ดีดดิ้นเป็นผู้เคร่งครัดกฎ พูดว่าการแก้รัฐธรรมนูญรัฐบาลไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย เป็นเรื่องของอำนาจทางสภานิติบัญญัติ  ให้ ส.ส.เขาว่ากันไปเอง รัฐบาลไม่ต้องการเข้าไปก้าวล่วง
    แล้วไงล่ะ...!
    กลัวรัฐธรรมนูญใบหนาด จนสันดานโผล่กลางสันดอน วานนี้ นายกฯ  ดอกท้อจีบปากจีบคอพูดใหม่ การแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ครม.จึงเห็นชอบให้ยื่นร่างขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๙๑  ของรัฐบาลต่อสภาด้วย!!
    ก็ไม่ผิดกติกา ทำได้-ทำไป ไม่เห็นต้องไปพูดออกตัวแต่แรกให้เสียตัวทีหลังอย่างนี้เลย หรือชินซะแล้ว และนี่...รุมสกรัมรัฐธรรมนูญกันสุดลิ่มทิ่มทวาร
    ยังกะว่า ถ้าปล่อยให้ใช้อยู่ซักอีกวัน อกรัฐบาลผู้มีปัญหาทางมาตรฐานจริยธรรมจะต้องแตกตายในบัดดลอย่างนั้นแหละ!?
    ใช่...อย่างนี้ต้องรีบแก้ ขืนแก้ช้ามีสิทธิ์ถูกจับถอด เพราะมาตรา ๒๗๙  วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสามบอกว่า...
    มาตรา ๒๗๙ มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมที่กำหนดขึ้น
    มาตรฐานทางจริยธรรมตามวรรคหนึ่ง จะต้องมีกลไก และระบบในการดำเนินงานเพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกำหนดขั้นตอนการลงโทษตามความร้ายแรงแห่งการกระทำ
    การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดทางวินัย ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรายงานต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือสภาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี และหากเป็นการกระทำผิดร้ายแรง ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพิจารณาดำเนินการ  โดยให้ถือเป็นเหตุที่จะถูกถอดถอนจากตำแหน่งตามมาตรา ๒๗๐
     ก็อย่างที่คุยกันไปวันก่อน รัฐบาลประชาธิปไตยจอมปลอม "กลัวองค์กรอิสระ" ถึงขั้นประกาศ...มีอำนาจจะยุบให้หมด ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. ดีเอสไอ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ฯลฯ
    ไม่ยุบได้ไง...เรื่องนี้ ครม.ก็ดี สภาก็ดี ถึงตาจนจริงๆ "พวกเดียวกัน" ก็พอจะอุ้มไถลไถแถกกันได้ แต่พอบอกให้ส่งเรื่อง ป.ป.ช.ดำเนินการเท่านั้นแหละ
    "หดจู๋" หมดเลย!
    ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๐ ว่าด้วยการถอดถอนจากตำแหน่ง ถอดกันแบบไหน-อย่างไร ท่านไปเปิดดูเอง แต่ถ้าถามกันว่า อย่างกรณีนี้ ผู้ถูกร้องคือนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมมีลักษณะร้ายแรง หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การดำเนินการของผู้รับผิดชอบจะไม่เป็นไปด้วยความเป็นธรรม
    แล้วจะทำยังไง?
    มีทางให้ทำอย่างนี้ครับ มาตรา ๒๘๐ วรรคสอง บอกว่า........ผู้ตรวจการแผ่นดินจะไต่สวนและเปิดเผยการไต่สวนต่อสาธารณะก็ได้!
    ให้ "ประจานประชา" แทนประชาพิจารณ์ไง
ถ้าผู้ถูกเอาความชั่วประจานต่อประชายังหนังหนา "หน้าด้าน-หน้าทน" ลอยดอกอยู่ในจอกเหมือนมะลิได้ ไม่อับอายประชาโลก ถ้าทนเป็นแรดได้ถึงขนาดนั้น
    ยอมแม่คุณเค้าไปเหอะ!
    ทีนี้ลองทบทวนกันซิว่า ว.๕ ชั้น ๗ นั้น ถ้าเข้าข่ายผิดมาตรฐานทางจริยธรรม จะผิดด้านไหน ด้านส่อไม่สุจริต ด้านเสื่อมเสียทางศีลธรรม หรืออะไรกันแน่ เพราะเท่าที่ฟังแต่ละฝ่ายออกมาแก้ตัว ออกมาแถลง ต่างพูด ว.๕ ชั้น ๗  ด้วยนัยต่างกันไป
    นัยหนึ่งแก้ตัวเรื่องลับๆ ล่อๆ อันว่าด้วยการเอาอยู่ และอีกนัยหนึ่งก็แก้ตัว-แก้ข่าวไปในทาง ลับลมคมในทางธุรกิจการเมือง   
    ฟังทางรองนายกฯ เฉลิม "แก้วสารพัดนึก" ยิ่งลักษณ์ ก็บอกว่า
    "
นายกฯ ขึ้นไปชั้น ๗ ของโรงแรม ซึ่งเป็นห้องประชุมขนาดเล็ก พร้อมกับทีมรักษาความปลอดภัย...ยืนยันว่าชั้น ๗ เป็นห้องประชุม และมีคนในห้องประชุมอยู่ ๗-๙ คน แต่ไม่รู้ประชุมเรื่องอะไร ต้องให้นายกฯ ชี้แจง...ผมได้พูดคุยกับ รปภ.แล้ว ซึ่งเขาก็ไปพบปะเป็นการส่วนตัว..."
    นี่เป็นโทนกลางๆ คือเป็นได้ทุกเรื่อง ธุรกิจการเมืองก็ได้ จะเป็นเรื่องเอาอยู่ก็ได้ และรองฯ เฉลิม "ฉลาดเป็นกรด" สมที่เป็นดอกเตอร์ทางกฎหมายรามคำแหง โดยที่กวาดให้ทุกลานเรียบ แล้วก็ปัดไปกองรวมห่างตัวไว้ด้วยประโยคว่า
    "ต้องให้นายกฯ ชี้แจงเอง"!?
    แต่ยิ่งลักษณ์แค่ปริญญาโท KFC จึงรับลูกปริญญาเอกจากรองฯ เหลิมไม่ทัน กลับบอกนักข่าวว่า  
    "ไม่ได้ประชุมหรอก ในฐานะนายกฯ สามารถเจอกับใครๆ ก็ได้ และที่สำคัญ ไปสถานที่เปิดเผย ไม่ได้เสียหายอะไร...ดิฉันเองก็อดทน เชื่อว่าผู้ที่ฟังอยู่จะพิจารณาเอง เราเองเป็นผู้หญิง ก็ยืนยัน เราไม่ทำอะไรเสียหายหรอกค่ะ"
    ฮะแฮ้ม...รู้นะ ในใจคิดอะไรอยู่!?
    ท่านรองฯ เหลิมบอกว่าคนในห้องประชุมตั้ง ๗-๙ คน ให้โทนการประชุม  แต่นายกฯ หญิงกลับเปลือยตัวในโทนลับๆ ล่อๆ ด้วยวลีว่า...
เราเองก็เป็นผู้หญิง  เราไม่ทำอะไรเสียหายหรอกค่ะ
    ก็ย้อนไปดูคำแถลง "คุณเอกยุทธ อัญชันบุตร" เมื่อ ๙ ก.พ.อีกที เขาแถลงว่า
    "...ผมมานั่งอยู่ แล้วเจอตัวนายกฯ ไม่ทราบว่ามาด้วยสาเหตุส่วนตัวหรืออะไร ประมาณ ๒ ชั่วโมงกว่า ขึ้นไปบนห้อง แล้วกลับลงมาเกือบ ๒ ชั่วโมง  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวนายกฯ มาเอง ผมก็ได้เจอกับอีกบุคคลหนึ่งลงมาจากห้องเหมือนกัน ไม่ทราบว่าไปเจอกันหรืออะไร...เรื่องนี้"
    ครับ...ฟังแล้ว "ภาพรวม" ก็สมพ้องกับสัพพัญญูเฉลิม คือนายกฯ ขึ้นไปประชุม แล้วกลับลงมา ส่วนอีกคนที่ลงมาจากห้องเหมือนกัน ก็โซเซซะว่าเป็นหนึ่งในจำนวน ๗-๙ คนที่มาประชุม ตามที่ท่านรองฯ เฉลิมบอกนั่นแหละ
    แต่ดูเหมือนพี่ชายคือทักษิณ กับนพดล ปัทมะ มือของทักษิณ จะรู้ความจริงของเหตุ ว.๕ ชั้น ๗ ทะลุปรุโปร่ง ดังนั้น ที่นายนพดลออกมาแก้ตัวให้ยิ่งลักษณ์จึงออกไปในโทน...ฮะแฮ้ม...ฟังเอาเองละกัน
    "....ถ้าหากนายกฯ มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือเรื่องชู้สาวตามที่กล่าวหา ทำไมจะต้องเดินทางไปที่โรงแรมระดับ ๕ ดาว ที่มีกล้องวงจรปิดเป็นตาสับปะรด......ตั้งแต่ตอนที่นายเอกยุทธออกมาพูดดูถูกชาวเหนือแล้ว และนายกฯ  ถึงจะเป็นสุภาพสตรี แต่ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าใครหลายคน..."      
    ชัดว่าผู้พูดให้น้ำหนักแก้ข่าวไปทางเรื่องชู้สาว ทั้งที่ไล่เรียงดูแต่ต้น จากแต่ละคนแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีคนไหนพูดสื่อไปทางว่า ว.๕ ชั้น ๗ คือประเด็นชู้สาวตรงๆ เลย มีแต่ตัวนายกฯ เองเท่านั้นที่พูดกระเดียดไปทางนั้น
    สรุปก็คือ เมื่อฟัง "ความจริง" ที่ท่านรองฯ เฉลิมชี้แจง ว่านายกฯ ไปประชุม ในห้องมี ๗-๙ คน ทุกอย่างมันก็ "จบง่าย" เพราะพยานยืนยัน "ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง" ของนายกฯ เยอะแยะ คนตั้ง ๗-๙ คน ใครยังคิดว่า ว.ชั้น ๗. คือเอาอยู่ ล่ะก็
    ซาดิสต์แน่ๆ!?
    แต่ก็แปลก ทั้งเจ้าตัวคือนายกฯ และทั้งองครักษ์รอบกระโปรง กลับทำและพูดให้ ว.๕ ชั้น ๗ ของยิ่งลักษณ์ เกิดปัญหามาตรฐานทางจริยธรรมที่ต้องตรวจสอบในฐานะผู้เป็น "บุคคลสาธารณะ" ขึ้นมาจนได้
    หรือเพราะ ๗-๙ คนนั้น ไม่กล้าเผยตัว ด้วยกลัวเรื่องที่แอบมาประชุมลับกัน หรือ ๗-๙ คนตามที่รองฯ เฉลิมพูดนั้น "ไม่มีตัวตน" เพราะแท้จริงแล้ว มีเพียง "๑ ตัวตน" ตามที่เอกยุทธพูดเท่านั้น ที่ว่า
    "นายกฯ ขึ้นไปบนห้อง ๒ ชั่วโมงกว่า แล้วกลับลงมา......ผมก็ได้เจอกับอีกบุคคลหนึ่งลงมาจากห้องเหมือนกัน"
    ก็ต้องรอ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ตรวจสอบว่า ว. ๕ ชั้น ๗ นั้น ๗-๙  คนที่ถูกระบุ...ใครบ้าง และ ๑ คนที่ "ลงมาจากห้องเหมือนกัน" นั้น
    ใครว้าาาาา....อิจช้า...อิจฉา!?
 
--------------------------------------------------------------------------------------------




Reply all
Reply to author
Forward
0 new messages