การเลือกซื้อที่ดิน
การเลือกซื้อที่ดินใดๆ ควรตรวจสอบดูก่อนว่ามีการเวนคืนจากทางราชการหรือไม่ โดยตรวจสอบจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง คือ
กรมที่ดินหรือที่ทำการเขต เพื่อสอบถามโฉนด ขนาดที่แท้จริงของที่ดินและเจ้าของที่ดินเดิม
กรุงเทพมหานครหรือกรมโยธาธิการ เพื่อสอบถามเขตห้ามก่อสร้าง เขตพักอาศัย การตัดถนน
การทางพิเศษ เพื่อสอบถามแนวห้ามก่อสร้างจากแนวของทางด่วน
กรมทางหลวง เพื่อสอบถามแนวห้ามก่อสร้างจากแนวถนนหลวงหรือเรื่องการตัดถนน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อสอบถามแนวสายไฟฟ้าแรงสูงขนานใหญ่ผ่าน
กรมการบินพาณิชย์ เพื่อสอบถามสิ่งก่อสร้างไปบังคลื่นวิทยุ ในส่วนอาคารสูงที่เกิน 15 เมตรขึ้นไป
นอกจากจะตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ จากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมคือ การตรวจสอบประวัติที่ดิน เช่นที่ดินเดิมเคยเป็นสระน้ำหรือถูกขุดหน้าดินเอาไปใช้หรือไม่เพราะดินที่ถมลงไปใหม่นั้นจะต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าเนื้อดินจะแน่นและ
ไม่ทรุดตัว ก่อนปลูกบ้านควรตรวจดูที่ดินว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดจนเหลือแต่ตอใต้ดิน รวมถึงรากแก้วขนาดใหญ่หรือเปล่า เพราะสิ่งเหล่า
นี้จะเป็นบ่อเกิดของปลวกที่จะมากัดกินบ้านเราในภายหลัง สภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดินเป็นเช่นไรเช่น โรงงาน โรงพยาบาล หรือวัด
การเลือกที่ดินแถบใกล้ชายทะเล เช่นแถวสมุทรปราการสมุทรสาครควรคำนึงถึงความชุ่มน้ำของเนื้อดินอันจะมีผลต่อการเลื่อนไหลของเนื้อดิน
ข้างใต้หรือดินทรุด จะทำให้ต้องใช้เข็มที่ตอกเป็นฐานรากมากกว่าปกติ และมีขนาดใหญ่กว่าบ้านโดยทั่วไป ถ้าไม่จำเป็นอย่าเลือกพื้นที่ดินที่เป็นชายธง ควรเลือกที่ดิน ที่มีขนาดความกว้างยาวของที่ดินเหมาะสมต่อการปลูกสร้าง
ก่อนการก่อสร้างบ้านจะต้องมีการปรับที่ดินให้มีความเหมาะสม โดยการถมและขุดหรือบางทีอาจจะใช้ทั้งการถมและการขุดไปด้วยกัน เช่น การขุดเพื่อทำสระน้ำ สระว่ายน้ำ แล้วนำที่ดินที่เหลือจากการขุดไปถมในส่วนที่จะทำการก่อสร้างบ้านให้สูงขึ้นเป็นเนิน เป็นต้น
การถม (เพื่อการสร้างบ้าน) เพื่อปรับความสูงของดินในพื้นที่ก่อสร้างให้สูงขึ้น อาจสูงเท่ากับระดับถนนภายนอกหรือสูงกว่าระดับถนน 0.50-1.00 เมตร ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงระดับการท่วมของน้ำ ระดับถนน และความสวยงามของอาคาร
การขุด (เพื่อการสร้างบ้าน) ถ้ามีการขุดระดับต่ำกว่า 2.50 เมตร เพื่อทำห้องใต้ดิน ทำสระว่ายน้ำ หรือถังเก็บน้ำใต้ดิน จะใช้วิธีตอกเข็มไม้ยาวตลอดแนวการขุดเป็นพืดเพื่อกันดินถล่ม หรือขุดดินปรับเป็นแนวเอียง ถ้าดินมีความเหนียวพอ ก็ไม่ต้องใช้เข็มไม้ตอก ถ้ามีการขุดระดับลึก 5.00 เมตร จะแพงเกินไป เพราะจะต้องใช้แผ่นเหล็ก (SHEET PILE) ตอกเป็นแนวกันดินถล่ม และใช้เครื่องตอกที่เป็นเครื่องกลซึ่งมีราคาแพงมาก