อย่างไรก็ตาม Compiere มีรากฐานมาจาก SAP โดยมีข่าวว่า developers
ส่วนหนึ่งของ SAP มาร่วมผลักดันโครงการนี้ ... ซึ่งถึงแม้ว่า SAP
อาจจะเป็นจุดขายสำหรับหลายๆ องค์กรขนาดยักษ์ๆ
ที่ไม่อยากเสียเงินเสียทองกันเป็นหลักสิบล้าน กับไม่อยากเสียค่า
maintainance รายปีอีกสูงลิบลิ่ว ... แต่ SAP คือปัญหาใหญ่ของหลายๆ
องค์กรที่นำมันไปใช้ เนื่องจาก SAP มองตัวเองเป็น Best Practice
ที่ทุกองค์กร 'ควรจะต้อง' คล้อยตาม ...
อันเป็นวิธีคิดที่ผิดพลาดอย่างแรงในความคิดของผม :D ... ดังนั้น การที่
Compiere อ้างถึงชื่อ SAP จึงกลายเป็นจุดที่น่ากลัวมากกว่าน่าสนใจ ;)
ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมาผมรู้แค่ว่า Grand Linux นำเอา Compiere
มาต่อยอดในเมืองไทยเท่านั้น
แต่ไม่รู้ว่ามีการตัดต่อดัดแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งก็คงบอกไม่ได้ว่าได้แก้ปัญหาหลายๆ จุดที่เป็น 'มรดกบาป' จาก SAP
ไปแล้วรึยัง :P ... อันนี้ก็คงต้องหาเรื่องดู demo
กันนิดหน่อยถึงจะรู้รายละเอียดมากกว่านี้ครับ
ยกตัวอย่างอย่างนี้ครับ SAP จะไม่สามารถออก invoice ด้วยเงื่อนไขบ้าๆ บอๆ
แบบบ้านเรา เช่น สินค้าราคา 3,950 บาท มีส่วนลด 15% 3% 2% (ลดเป็นสาม
steps ที่ไม่ใช่ 20%)
ในขณะที่ร้านค้าในเมืองไทยเสนอราคาขายส่งกันแบบนี้จนแทบจะเป็นมื้ออาหารอยู่แล้ว
หรือไม่งั้นก็อาจจะมีสินค้าราคา 4,250 บาท ลด 20% กับอีก 60 บาท ... Best
Practice แห่งประเทศเยอรมันก็ตายในหน้าที่แล้วครับแค่นี้ :D ...
แล้วคิดว่า Compiere จะทำได้มั้ย? ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ;)
ถ้าถามผมว่ามันต่างกันตรงไหนในเวลานี้ ผมบอกได้แค่ว่า มันต่างกันที่
'มุมมอง' และ 'หลักคิด' เพราะ Compiere ไม่ได้ถูกตั้งใจออกแบบมาเพื่อเป็น
platform สำหรับ Third Party Plug-ins และการ maintain
ระบบหลักของเขาก็น่าจะไม่มีคนไทยเข้าไปมีปากมีเสียงใน community
ของเขามากนัก ซึ่งอาจจะทำให้มีมุมมองหลายๆ
อย่างที่แตกต่างออกไปในแง่ของการบัญชี และน่าจะมี process
หลายอย่างที่อาจจะฝืนกับวัฒนธรรมการทำมาค้าขายในบ้านเรา ... นั่นหมายความ
users ต้องปรับตัวเข้าหา software ทั้งๆ ที่มันควรจะมีบทบาทแค่เป็น
'สิ่งอำนวยความสะดวก' ให้กับ users เท่านั้น
ต้องเห็น demo ครับถึงจะบอกได้ ไม่แน่ใจว่า Grand Linux ยอม demo
มั้ยเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างจะสยองกับเจ้า 'แสป' นั่นพอสมควร :D
On Dec 15, 4:48 pm, ชายเจตน์ <mailj...@gmail.com> wrote:
> ข้อมูลตามลิงค์ครับ ...
>
> Saeree ERP&CPM
>
> http://www.grandlinux.com/index.php?option=com_content&view=article&i...
On Dec 15, 11:34 pm, Chalermkiat <chalermkiat.kaewsa...@gmail.com>
wrote:
อย่างแรกเลยก็คือ interface ที่ควรจะต้องโละทิ้งทั้งหมด
เพราะนั่นเป็นวิธี 'ออกแบบให้ยาก' เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจะมาจากการฝึกอบรม
โดย users จะไม่มีทางสอนกันเองได้เลย ใครจะใช้ต้องไปเรียนทุกคน ...
อันนี้เรื่องใหญ่มากนะครับ ผมถือว่าไม่ fair กับ users
ถัดมาก็คือ มันไม่ได้ถูกออกแบบให้คนอื่นไป develop ต่อยอด
ใครจะทำอะไรกับมันต้องได้รับการฝึกอบรมเหมือนกัน แต่เป็นคนละ course กับ
users ... นี่ก็อีกครับ เป็นบ่อเงินบ่อทองของระบบที่ 'ออกแบบให้ยาก'
ระบบที่ใช้งานยาก คือระบบที่ออกแบบไม่ดีเสมอครับ :) users ในระดับ
advance อาจจะต้องได้รับการฝึกอบรมบ้าง แต่ระดับ routine ต้องสามารถ
operate ได้ทันทีหลังจากนั่งดูคนอื่นทำเพียงไม่กี่ชั่วโมง
(จะบอกไม่กี่นาทีก็เกรงใจ :D )
ระบบที่ออกแบบอย่างดี แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็ต้อง operate ได้เสมอครับ :)